ผลการสำรวจของบลูมเบิร์ก นักเศรษฐศาสตร์ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของสิงคโปร์ โดยบางส่วนระบุว่าการเติบโตส่วนหนึ่งมาจากการแสดงคอนเสิร์ต 6 รอบของ เทย์เลอร์ สวิฟต์

ตามค่ามัธยฐานของการสำรวจ พบว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพีของสิงคโปร์ คาดว่าจะขยายตัว 2.9% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ที่สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม ซึ่งเป็นอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 6 ไตรมาส 

นักเศรษฐศาสตร์ยังเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปีเป็น 2.5% จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 2.3% ซึ่งถือเป็นช่วงบนสุดของช่วงคาดการณ์ของรัฐบาลที่ 1%-3% ในปี 2567

สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ตัวเลขอย่างเป็นทางการแสดงให้เห็นว่า GDP ของสิงคโปร์ขยายตัว 2.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ไว้ที่ 2.8% แต่เร่งขึ้นจากการเติบโต 1% ในไตรมาสที่สาม โดยในปี 2566 เศรษฐกิจขยายตัว 1.1% ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของรัฐบาลก่อนหน้านี้ที่ 1.2%

สิงคโปร์เป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้จัดคอนเสิร์ตเอราส ทัวร์ ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ หลังจากที่หน่วยงานรัฐบาลได้ทำข้อตกลงพิเศษกับเธอ โดยมีการจำหน่ายตั๋วไปแล้วมากกว่า 300,000 ใบสำหรับการแสดง 6 รอบ ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ถึงวันที่ 9 มีนาคม โดยมีแฟนๆ จำนวนมากเดินทางมาจากต่างประเทศ และเมืองต่างๆ

ชัว ฮาน เต็ง นักเศรษฐศาสตร์ของ DBS กล่าวว่า คอนเสิร์ตดังกล่าวคาดว่าจะเพิ่มเม็ดเงินประมาณ 300-400 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 7,990-10,654 ล้านบาท) หรือ 0.2% ของจีดีพี ให้กับเศรษฐกิจของสิงคโปร์ในไตรมาสแรก เขาตั้งข้อสังเกตว่าการแสดงคอนเสิร์ตของสวิฟต์ ก่อให้เกิดผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมการต้อนรับ อาหารและเครื่องดื่มของประเทศ ตลอดจนภาคการค้าปลีก และเสริมว่าการแสดงของสวิฟต์เป็นปัจจัยดึงดูดแฟนเพลงของเธอสู่จุดหมายปลายทางทั่วโลกเป็นจำนวนมาก และงานกิจกรรมขนาดใหญ่ดังกล่าวจะช่วยเสริมตำแหน่งของสิงคโปร์ในฐานะสถานบันเทิงด้านการแสดงดนตรีที่เติบโตในระยะยาว ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยว และเพิ่มรายรับจากการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

...

ด้านหยุน หลิว นักเศรษฐศาสตร์ของ HSBC กล่าวว่า สิงคโปร์พร้อมที่จะได้รับประโยชน์จากการพลิกผันของวงจรการค้า หลังจากที่เศรษฐกิจเติบโต 1.1% ในปี 2566 และคาดว่าจีดีพีไตรมาสแรกจะเติบโต 3.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนของการผลิตภาคอุตสาหกรรม และเสริมว่าบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางจะยังคงให้การสนับสนุนที่จำเป็นอย่างมากต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "การท่องเที่ยวทางดนตรี" ที่เกิดขึ้นใหม่ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง เช่น เที่ยวบิน ที่พัก การค้าปลีก และอาหารและเครื่องดื่ม

ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากคอนเสิร์ตของสวิฟต์ เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก นับตั้งแต่มีการเปิดเผยว่าสิงคโปร์ได้ติดต่อให้สวิฟต์เปิดการแสดงที่นี่ โดยตระหนักถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะได้รับ รัฐบาลสิงคโปร์ไม่ได้เปิดเผยจำนวนเงินในข้อตกลงพิเศษ แต่นายเอ็ดวิน ถง รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ชุมชน และเยาวชน กล่าวว่า "ไม่สูงขนาดนั้น"

อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวมีมูลค่าระหว่าง 2-3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการแสดงทั้ง 6 รอบ แทนที่จะเป็นจำนวนเงินต่อการแสดง ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทยเคยอ้างถึง

ตามที่ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งกล่าวไว้ คอนเสิร์ตของสวิฟต์ในสิงคโปร์อาจสร้างรายได้ที่อาจเกินกว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 1,200 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 28,131 ล้านบาท) ระหว่างการแสดงคอนเสิร์ต 3 รอบในนครเมลเบิร์นของออสเตรเลีย ส่วนการแสดง 4 รอบของเธอในกรุงโตเกียวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา คาดว่าจะสร้างรายได้สูงถึง 34,100 ล้านเยน (ราว 8,228 ล้านบาท).

ที่มา CNA

ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign