พบสายเคเบิลใต้ทะเลแดงได้รับความเสียหายแล้ว 4 เส้น เริ่มส่งผลกระทบต่อผู้ให้บริการโทรคมนาคมหลายเจ้าทั่วโลก ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 4 มี.ค. 2567 ว่า สายเคเบิลไฟเบอร์ออปติกใต้ทะเลแดง ซึ่งรองรับการไหลของข้อมูลอินเทอร์เน็ต (Internet traffic) ราว 97% ทั่วโลก ได้รับความเสียหายแล้ว 4 เส้น ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความไม่สงบในทะเลแดง ซึ่งกลุ่มกบฏฮูตีของเยเมน คอยโจมตีเรือของอิสราเอล และชาติตะวันตก ที่สัญจรผ่านมา

บริษัท HGC Communications ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในฮ่องกง รายงานว่า สายเคเบิลในทะเลแดง 4 เส้น “ถูกตัด” ได้แก่สาย SEACOM, TGN, Africa Asia Europe-One และสาย Europe India Gateway

HGC ระบุว่า ความเสียหายดังกล่าวกระทบการไหลของข้อมูลอินเทอร์เน็ตของพวกเขาประมาณ 25% และตอนนี้กำลังเปลี่ยนเส้นทางการไหลให้ผ่านจีนแผ่นดินใหญ่และสหรัฐฯ

ด้านบริษัท SEACOM ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในแอฟริกา ซึ่งมีฐานอยู่ในประเทศมอริเชียส ยืนยันกับสำนักข่าว วอลล์สตรีทเจอร์นัล ว่า สายเคเบิลของพวกเขาในทะเลแดงได้รับความเสียหาย และการซ่อมแซมต้องรอจนถึงอย่างน้อยไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในภูมิภาค

ขณะที่สาย Europe India Gateway ซึ่งสร้างโดยกลุ่มนักลงทุนหลายเจ้ารวมถึง บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง AT&T และ Verizon ก็ได้รับความเสียหาย แต่จนถึงในวันจันทร์ที่ 4 มี.ค. ยังไม่มีบริษัทใดที่เกี่ยวข้องกับสายเคเบิลนี้ ออกมายืนยันว่าบริการของพวกเขาได้รับผลกระทบ

ส่วนบริษัท Tata Communications ของอินเดีย ซึ่งบริหารจัดการสาย TGN ยืนยันกับสำนักข่าว AP ว่า สายเคเบิลของพวกเขาได้รับความเสียหายใกล้เยเมน ทำให้บริการบางอย่างล่ม หรือต้องมีการเปลี่ยนเส้นทางอินเทอร์เน็ต

...

อนึ่ง ผลการศึกษาของกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิของสหรัฐฯ ในปี 2560 ประเมินว่า การสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างทวีป 97% จากทั้งหมดทั่วโลก เกิดขึ้นโดยใช้สายเคเบิลไฟเบอร์ออปติกใต้ทะเล ซึ่งลำเลียงผ่านใต้มหาสมุทรทั่วโลก

การศึกษาเดียวกันนี้ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญที่สายเคเบิลดังกล่าวมีต่อตะวันออกกลาง โดยเมื่อปี 2556 มีนักดำน้ำ 3 คนพยายามตัดสายเคเบิลใต้ทะเลใกล้เมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ ทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตของอียิปต์ลดลงเกือบ 60%

ทั้งนี้ รายงานความเสียหายต่อสายเคเบิลใต้ทะเลเริ่มถูกเผยแพร่ออกมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน โดยมีสื่ออิสราเอลอย่างน้อย 1 เจ้า กล่าวโทษกลุ่มกบฏฮูตี ในเยเมน ว่าเป็นผู้ก่อเหตุ

อย่างไรก็ตาม ฮูตีปฏิเสธข้อกล่าวหามาตลอด โดยในแถลงการณ์ที่พวกเขาโพสต์เมื่อสัปดาห์ก่อน ฮูตียืนยันว่าพวกเขาต้องการรักษาสายเคเบิลโทรคมนาคมใต้ทะเลทั้งหมดและบริการที่เกี่ยวข้อง ให้อยู่ห่างจากความเสี่ยงใดๆ และให้คำมั่นว่า จะอำนวยความสะดวกเรื่องการซ่อมแซมและซ่อมบำรุงด้วย

ผู้สังเกตการณ์กลุ่มอื่นๆ เชื่อว่า สายเคเบิลดังกล่าวอาจได้รับความเสียหายจากการที่ เรือสินค้าของอังกฤษชื่อ ‘Rubymar’ จมลงใต้ทะเลเพราะการโจมตีของกลุ่มฮูตี จนลูกเรือต้องสละเรือเมื่อ 18 ก.พ. ทำให้เรือลำนี้ถูกทิ้งให้ลอยในทะเลแดงนานหลายวัน ลากสมอไปกับก้นทะเล และอาจไปสร้างความเสียหายแก่สายเคเบิลโดยบังเอิญ

โฆษกของ SEACOM บอกกับ วอลล์สตรีทเจอร์นัล ว่า มีความเป็นไปได้ที่สายเคเบิลของพวกเขาได้รับความเสียหายเพราะเรือ Rubymar แต่พวกเขายังไม่ฟันธงในเรื่องนี้

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : forbes