ตำรวจอินเดียยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมเกษตรกรในระหว่างการเดินขบวนประท้วงไปยังกรุงนิวเดลี เพื่อกดดันรัฐบาลให้ปฏิบัติตามคำสัญญาที่จะจ่ายเงินสนับสนุนผลิตผลทางการเกษตร

ตำรวจอินเดียยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมเกษตรกรในระหว่างการเดินขบวนประท้วงไปยังกรุงนิวเดลี เพื่อกดดันรัฐบาลให้ปฏิบัติตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้ในปี 2564 ที่จะจ่ายเงินสนับสนุนผลิตผลทางการเกษตร

การเดินขบวนครั้งนี้ถือเป็นการประท้วงครั้งล่าสุด หลังจากการประท้วงในลักษณะเดียวกันนี้เมื่อปี 2563 และเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี จะลงสมัครชิงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 3 โดยกลุ่มเกษตรกรถือเป็นผู้มีสิทธิออกเสียงที่มีความสำคัญอย่างมาก

เกษตรกรเดินขบวนมุ่งหน้าไปสู่กรุงเดลี หรือหนึ่งวันหลังจากการเจรจาระหว่างสหภาพเกษตรกรรมและรัฐมนตรีประสบความล้มเหลวในการให้คำมั่นที่จะกำหนดราคาขั้นต่ำสำหรับพืชผลทางการเกษตรหลายชนิด โดยเกษตรกรและผู้สนับสนุนหลายร้อยคนร่วมเดินขบวน รวมถึงขบวนรถแทรกเตอร์ขนาดใหญ่ในหลายพื้นที่ของรัฐปัญจาบและหรยาณา ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาหลายนัดเพื่อสลายผู้เดินขบวนที่จุดผ่านแดนชัมภู ระหว่างรัฐปัญจาบและหรยาณา ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงนิวเดลีไปทางเหนือประมาณ 230 กม.

คลิปวิดีโอเผยให้เห็นผู้ประท้วงพยายามบุกทะลวงเครื่องกีดขวางด้วยการยกบล็อกซีเมนต์ที่วางอยู่เพื่อขัดขวางการเดินขบวน ขณะที่ตำรวจใช้โดรนยิงแก๊สน้ำตาใส่ฝูงชน ส่วนผู้ประท้วงบางคนได้ถูกควบคุมตัว ส่วนในย่านชานกรุงนิวเดลี ทีมปราบจลาจลได้ประจำการบริเวณเครื่องกีดขวางบนถนนสายหลักที่มุ่งสู่เมืองหลวง เพื่อห้ามไม่ให้มีการรวมตัวของฝูงชน

สหภาพแรงงานเกษตรกรต้องการค้ำประกันผลผลิตที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้รัฐบาลสนับสนุนหรือซื้อพืชผลทางการเกษตรในราคาขั้นต่ำ พวกเขายังต้องการให้รัฐบาลปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่จะเพิ่มรายได้เป็น 2 เท่า นายอาร์จัน มุนดา รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร กล่าวหลังจากการหารือกับผู้นำสหภาพแรงงานว่า ปัญหาบางอย่างได้รับการแก้ไขแล้ว แต่จำเป็นต้องมีการหารือเพิ่มเติม 

...

ด้านพรรคคองเกรส ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของอินเดียกล่าวว่า รัฐบาลทำให้เกษตรกรผิดหวัง นายไจรัม ราเมช สมาชิกสภาฯ จากพรรคคองเกรส กล่าวว่า "ผลจากราคาตลาดที่ไม่เพียงพอและราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นพร้อมๆ กัน ส่งผลให้เกษตรกรตกอยู่ในภาวะหนี้สินมากขึ้น" 

รัฐบาลประกาศราคาขั้นต่ำสำหรับพืชผลทางการเกษตรมากกว่า 20 ชนิดในแต่ละปี แต่หน่วยงานของรัฐซื้อเฉพาะข้าวและข้าวสาลี ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรเพียงประมาณ 6% เท่านั้น

ในปี 2564 หลังการประท้วงของเกษตรกรที่กินเวลานานตลอดทั้งปี ส่งผลให้รัฐบาลของนายโมดียกเลิกกฎหมายด้านการเกษตรบางฉบับ ซึ่งประกาศใช้เพื่อลดการควบคุมตลาดสินค้าเกษตรกรรมขนาดใหญ่ รัฐบาลกล่าวว่าจะจัดตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อหาวิธีที่จะรับรองราคาผลผลิตทางการเกษตรทั้งหมด แต่เกษตรกรกล่าวหาว่ารัฐบาลดำเนินการตามคำสัญญาดังกล่าวล่าช้า.

ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign