ต่อยอดจากงานนิทรรศการ “Waiting for Spring” ที่จัดแสดงตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.2566 ณ ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี ถนนสุขุมวิท ให้คอศิลปะได้สัมผัสถึงความงามของภาพวาดหมึกเกาหลีแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า “ซูมุกควา” ขนผลงาน ศิลปะ 64 ชิ้น จาก 10 ศิลปินเกาหลีที่อยู่ในไทย มาโชว์โฉมให้ดูกันเพลินตา

ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ “ดูแต่ตา” แต่ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลียังชวนทั้งชาวไทยและเกาหลีเปิดประสบการณ์ให้ “ลงมือทำ” กับการเรียนวาดภาพศิลปะ “ซูมุกควา” โดย อาจารย์เย ฮยัง ศิลปินซูมุกควาเกาหลี เป็นวิทยากรในกิจกรรมเวิร์กช็อปครั้งนี้ ธีมของการวาดภาพก็คือส่งต่อการเรียนรู้ฤดูใบไม้ผลิของเกาหลีผ่านภาพวาด “ซูมุกควา” โดยวิทยากรให้เริ่มตั้งแต่การใช้พู่กันลงหมึกและลากเส้นเป็นรูปทรงต่างๆ ทั้งเส้นตรง สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยมในกระดาษ อันเป็นพื้นฐานของการเขียนอักษรเกาหลี รวมถึงการจดพู่กันที่จุ่มสีเพื่อวาดองค์ประกอบของดอกไม้ ทั้งกลีบและเกสร และให้เทคนิคที่ทำให้ภาพมีมิติมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการลงสีวาดดอกบ๊วยก็เรียกได้ว่ามีเทคนิคในการบิดและตวัดปลายพู่กัน เพื่อที่จะสร้างกลีบดอกให้สวยงามได้อย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องใช้เวลาฝึกฝนอย่างยาวนานและใจต้องนิ่ง

แน่นอนว่าอุตสาหกรรม “เค-ป๊อป” หรือวัฒนธรรมการแต่งกายอย่างฮันบกและวัฒนธรรมอาหารของเกาหลีที่มีอยู่นานาชนิด เราต่างรู้ว่านี่คือซอฟต์พาวเวอร์ที่คนไทยหรือ แม้แต่คนทั่วโลกก็ต่างประจักษ์ ทว่ามรดกทางวัฒนธรรมหลักของศิลปะเกาหลีอย่างภาพวาดแบบ “ซูมุกควา” ก็ทรงพลังและถูก ผลักดันออกมาอย่างโดดเด่นไม่แพ้กัน

การวาดภาพ “ซูมุกควา” ที่ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อวันก่อน มี นายปาร์ค ยงมิน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย มาร่วมโชว์ฝีมือวาดภาพด้วย ขณะอาจารย์เย ฮยัง เผยว่าการวาดกลีบดอกบ๊วยที่ถูกลมฤดูใบไม้ผลิพัดปลิวมาตกลงบนตัวอักษร ก็เหมือนแต่งแต้มกลิ่นดอกบ๊วยลงบนกลิ่นหมึก ถือเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ทำให้ทุกคนได้สร้างผลงานที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและเข้าใจในศิลปะแนวนี้.

...

ภัค เศารยะ

คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม