ดัชนีนิกเกอิของตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นสร้างสถิติปรับตัวขึ้นถึง 35,000 จุด สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2533

ดัชนีนิกเกอิ ดัชนีหลักของตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่การซื้อขายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2533 เนื่องจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงช่วยกระตุ้นผู้ส่งออก และความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น

ดัชนีนิกเกอิปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.94% ที่ระดับ 35,110.52 จุดหลังปิดการซื้อขายภาคเช้า ดัชนีปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันและถือเป็นปรับตัวเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2020 ส่วนดัชนี TOPIX ซึ่งเป็นตัวชี้วัดภาพรวมของตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.81% ที่ 2,488.65 จุด

โทนี่ ไซคามอร์ นักวิเคราะห์ตลาดของ IG กล่าวว่า แผ่นดินไหวรุนแรงที่กระทบทางตะวันตกของญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และข้อมูลการเติบโตของค่าจ้างที่อ่อนแอ กำลังส่งผลให้ผู้ซื้อและผู้ขายในตลาดต้องประเมินตลาดใหม่ หลังจากธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ

ตามข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ ตัวเลขค่าจ้างแรงงานที่แท้จริงลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 20 เมื่อเดือนพฤศจิกายน ได้สร้างความสับสนให้แก่เจ้าหน้าที่ต้องการให้มีการปรับขึ้นค่าจ้างก่อนการปรับนโยบาย ไซคามอร์ กล่าวว่า "ข้อมูลค่าจ้างทำให้นิกเกอิ มีข้ออ้างที่จะปรับตัวขึ้นไปสู่ระดับ 35,000 จุด และเสริมว่านิกเกอิอาจจะยังคงทำกำไรได้ดีต่อไป 

ส่วนค่าเงินเยนปรับลดลง 0.9% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และอยู่ที่ระดับ 145.56 ต่อดอลลาร์ในการซื้อขายช่วงเช้า เงินเยนที่อ่อนค่าลงมีแนวโน้มที่จะทำให้หุ้นของผู้ส่งออกปรับตัวสูงขึ้น โดยจะเพิ่มมูลค่าของผลกำไรในต่างประเทศในรูปเงินเยน เมื่อบริษัทต่างๆ ส่งเงินกลับไปยังญี่ปุ่น

...

หุ้นญี่ปุ่นยังได้รับแรงหนุนจากวันที่ดีในตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากหุ้นเทคโนโลยีที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น.

ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign