เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ประเทศต่างๆเต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศเทศกาลแห่งความสุขวัน “คริสต์มาส” ผู้คนจำนวนมากจัดงานเฉลิมฉลอง แจกจ่ายของขวัญ ประดับอาคารบ้านเรือนหรือสำนักงานด้วยของประดับตกแต่งสีสันสวยงาม ไปจนถึงประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์ ขณะที่บริษัทห้างร้านบางส่วนเริ่มทยอยหยุดงาน เปิดโอกาสให้พนักงานพักผ่อนและเตรียมตัวนับถอยหลังต้อนรับวันขึ้นปีใหม่ 2567
ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า งานฉลองวันคริสต์มาสปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศยูเครนได้จัดงานเฉลิมฉลองต้อนรับวันแห่งความสุข 25 ธ.ค. เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา ยูเครนนับวันตามปฏิทินจูเลียน ของโบสถ์คริสต์ออร์โธดอกซ์แบบเดียวกับประเทศรัสเซีย ซึ่งทำให้วันคริสต์มาสของยูเครนและรัสเซียตรงกับวันที่ 7 ม.ค.ของทุกปี โดยก่อนหน้านี้นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้แก้ไขกฎหมายไปเมื่อเดือน ก.ค. อนุญาตให้ประชาชนชาวยูเครน “ละทิ้งรากเหง้ารัสเซีย” เรื่องการฉลองคริสต์มาสเดือน ม.ค.
สื่อบีบีซีอังกฤษระบุด้วยว่า ชาวยูเครนหลายครอบครัวมีความยินดีที่รัฐบาลจัดเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสตามโบสถ์คริสต์โรมันคาทอลิกเป็นครั้งแรก ระบุว่าถือเป็นปีแรกที่สมาชิกครอบครัวที่นับถือศาสนาคนละนิกายจะได้มารวมตัวกันพร้อมหน้า ร่วมฉลองเทศกาลคริสต์มาสกัน 2 รอบ ตามตารางคริสต์มาสคาทอลิก 25 ธ.ค. และคริสต์มาสออร์โธดอกซ์ 7 ม.ค.
...
ขณะที่ออร์โธดอกซ์เชิร์ชออฟยูเครน (OCU) ซึ่งประกาศแยกตัวจากโบสถ์รัสเซียออร์โธดอกซ์ เมื่อปี 2557 หลังรัฐบาลรัสเซียทำการผนวกคาบสมุทรไครเมีย เผยว่า เราได้เปลี่ยนตารางวันคริสต์มาสเป็นวันที่ 25 ธ.ค. มาพักใหญ่แล้ว และประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังคงยึดถือวันที่ 7 ม.ค. ตามเดิม
ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานบรรยากาศวันคริสต์มาสในประเทศจีน ระบุว่าเมืองใหญ่อย่าง นครเซี่ยงไฮ้หรือฉงชิ่ง มีการประดับตกแต่งรับเทศกาลกันตามห้างร้านอย่างคึกคัก แต่สำหรับพื้นที่ชนบทกลับแตกต่างออกไป บางบริษัทหรือสมาคมได้ประกาศจุดยืนชัดเจนว่าไม่ควรหลับหูหลับตาเดินตามรอยวัฒนธรรมต่างชาติ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการที่มาเช่าพื้นที่ขายของ งดเว้นการขายการ์ดหรือของขวัญวันคริสต์มาส อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนไม่ได้ห้ามจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาต่างชาติ แต่เน้นย้ำเรื่องการควบคุมและจัดการให้เป็นระเบียบเรียบร้อย.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่