ศาลอุทธรณ์ออสเตรเลีย เพิกถอนคำตัดสิน ล้างมลทินให้แก่หญิงผู้ถูกกล่าวหาว่า ฆาตกรรมลูกตัวเอง 4 ศพจนต้องนอนคุกมานานร่วม 20 ปีแล้ว หลังหลักฐานใหม่ชี้ว่าเธอไม่มีความผิด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 ธ.ค. 2566 ศาลออสเตรเลียมีคำสั่งเพิกถอนคำตัดสินคดีฆาตกรรมทารก 4 ศพของนาง แคทลีน โฟลบิก อย่างเป็นทางการแล้ว ล้างมลทินที่เธอถูกกล่าวหาว่า สังหารลูกน้อย 4 คนของตัวเอง ซึ่งทำให้เธอต้องถูกจำคุกมานานถึง 20 ปีโดยที่ไม่มีความผิด

นางโฟลบิกได้รับการอภัยโทษและปล่อยตัวเป็นอิสระในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตามคำแนะนำของนายทอม แบเธิร์สท์ ผู้พิพากษาเกษียณอายุ ซึ่งตรวจสอบหลักฐานที่ถูกนำเสนอต่อศาลระหว่างการพิจารณาในปี 2546 ใหม่ทั้งหมด และพบว่า มีข้อสงสัยที่สมเหตุสมผล ในการตัดสินความผิดของนางโฟลบิก

อย่างไรก็ตาม การล้างมลทินให้กับนางโฟลบิกจำเป็นต้องมีคำตัดสินอย่างเป็นทางการจากศาลอุทธรณ์คดีอาชญากรรมแห่งรัฐ นิวเซาท์เวลส์ ซึ่งในวันพฤหัสบดีที่ 14 ธ.ค. คณะผู้พิพากษาเห็นชอบร่วมกันว่า นางโฟลบิกควรได้รับการตัดสินให้พ้นจากความผิดทุกข้อกล่าวหา ปิดคดีการตัดสินที่ผิดพลาดครั้งเลวร้ายที่สุดของออสเตรเลีย

ทั้งนี้ นางโฟลบิกถูกศาลพิพากษาให้จำคุกในปี 2546 จากความผิดข้อหาฆาตกรรม 3 กระทง และทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยไม่เจตนาอีก 1 กระทง ตามหลังการเสียชีวิตอย่างปริศนาของลูกน้อย 4 คนของเธอ ได้แก่ เคเล็บ, แพทริก, ซาราห์ และ ลอรา ตลอดช่วง 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2532-2542 โดยแต่ละคนเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่เกิน 19 เดือน

ตลอดการพิจารณาคดี ไม่มีการยื่นหลักฐานอย่างเป็นรูปธรรมต่อศาลเพื่อพิสูจน์ว่าเธอสังหารเด็กๆ แต่คณะลูกขุนเชื่อว่าโอกาสที่เด็กทารกจะเสียชีวิตด้วยสาเหตุทางธรรมชาติเหมือนกันทั้ง 4 คนนั้น ไม่น่าเป็นไปได้ และต้องมีการฆาตกรรมมาเกี่ยวข้อง นอกจากนั้น บางข้อความในบันทึกของโฟลบิกยังสามารถตีความว่า เธอยอมรับความผิด ได้ด้วย

...

โฟลบิกปฏิเสธข้อกล่าวหามาตลอด การไต่สวนในปี 2562 ก็พบว่า ไม่มีข้อสงสัยที่สมเหตุสมผลในการตัดสินความผิดของนางโฟลบิก อย่างไรก็ตาม การไต่สวนเริ่มขึ้นอีกครั้งในปี 2565 หลังจาก 2 ปีก่อนหน้านั้นนักวิทยาศาสตร์ค้นพบการกลายพันธุ์ของยีนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนทั้งในตัวนางโฟลบิกและลูกสาว 2 คนของเธอ ซึ่งอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นกะทันหันได้

ส่วนทารกอีก 2 คนคือ คาเลบกับแพทริก ก็มียีนกลายพันธุ์อันตรายอีกแบบ ที่เชื่อมโยงไปถึงอาการลมชักเฉียบพลันในหนูด้วย โดยน่าจะสืบทอดมาจากแม่และพ่อของพวกเขา โดยแพทริกมีอาการลมชักก่อนที่จะเสียชีวิตด้วย

ที่หน้าศาลอุทธรณ์คดีอาชญากรรมรัฐนิวเซาท์เวลส์ นางโฟลบิกกล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนที่เคลื่อนไหวอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เพื่อช่วยเหลือเธอในคดีนี้ “เวลาที่ใช้ไปเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ในวันนี้ ส่งผลอย่างมากต่อคนมากมาย” “ฉันหวังและภาวนามาตลอดว่า วันหนึ่งฉันจะได้มายืนอยู่ตรงนี้พร้อมกับชื่อของฉันที่ได้รับการล้างมลทิน”

ด้านทนายความของนางโฟลบิกเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบกฎหมายใหม่ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก และเรียกร้องให้รัฐชดเชยจำนวนมากแก่นางโฟลบิกด้วย

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cnn