บริษัท เทสล่า เรียกคืนรถยนต์มากกว่า 2 ล้านคันในสหรัฐฯ หลังจากหน่วยงานตรวจสอบพบว่าระบบช่วยขับรถ หรือ ออโต้ไพลอต มีข้อบกพร่องบางส่วน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานในวันที่ 13 ธ.ค. 2566 ว่า สำนักงานบริหารความปลอดภัยจราจรทางหลวงแห่งชาติ (NHTSA) ของสหรัฐฯ เผยผลการสืบสวนเรื่องความปลอดภัยของระบบช่วยขับรถ หรือ ออโต้ไพลอต ของบริษัท เทสล่า ซึ่งดำเนินมานานร่วม 2 ปี โดยได้ข้อสรุปว่า ระบบออโต้ไพลอตนี้ มีข้อบกพร่องบางส่วน

ทั้งนี้ ระบบช่วยขับรถของเทสล่า จะช่วยเรื่องการควบคุมพวงมาลัยขับขี่, เร่งความเร็ว หรือเบรก แต่ผู้ขับขี่ยังต้องวางมือบนพวงมาลัยตลอดเวลา และระมัดระวังสภาพถนน การจราจรโดยรอบ และผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ ซึ่งซอฟต์แวร์ของเทสล่าควรทำให้แน่ใจว่า ผู้ขับขี่จะมีสมาธิในการขับรถ และใช้ออโต้ไพลอตในเงื่อนไขที่เหมาะสม เช่น ขณะขับขี่บนทางหลวง

อย่างไรก็ตาม NHTSA ระบุว่า จากการสืบสวนอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ของเทสล่า 956 ครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พบว่า “คุณสมบัติและขอบเขตการควบคุมของระบบออโตไพลอต อาจไม่เพียงพอป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่ใช้งานอย่างไม่ถูกต้อง”

“ระบบออโต้ไพลอตทำให้ผู้ขับขี่เกิดความเชื่อผิดๆ ว่ามีความปลอดภัย และง่ายต่อการทำให้เกิดการใช้งานอย่างไม่ถูกต้องในสถานการณ์อันตราย ซึ่งเทคโนโลยีนี้ของเทสล่าอาจไม่สามารถควบคุมรถบนถนนได้อย่างปลอดภัย”

“ระบบออโต้ไพลอตมีศักยภาพในการเพิ่มความปลอดภัย แต่มันจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบ” NHTSA ระบุ และเสริมว่า พวกเขาจะคอยติดตามการทำงานของระบบออโต้ไพลอตของเทสล่าต่อไป หลังจากมีการอัปเดตซอฟต์แวร์แล้ว

ด้านเทสล่าประกาศเรียกคืนรถยนต์กว่า 2 ล้านคัน หรือเกือบทั้งหมดของรถยนต์ที่พวกเขาขายในสหรัฐฯ นับตั้งแต่เปิดตัวระบบออโต้ไพลอตในปี 2558 พร้อมระบุว่า พวกเขาจะส่งการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ “OTA” หรือ “Over The Air” ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติ โดยไม่ต้องนำรถเข้าอู่หรือพบตัวแทนจำหน่าย แต่รายงานของ NHTSA ยังอ้างถึงโดยใช้คำว่า “เรียกคืน” อยู่

...

ขณะที่ในประกาศเรียกคืนของเทสล่า พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของ NHTSA แต่ตกลงว่าจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพื่อแก้ไขความกังวลดังกล่าว ซึ่งรวมถึงเพิ่มการตรวจสอบตอนเปิดใช้งานระบบออโต้ไพลอต

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc