ตำรวจอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ประธานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีทุจริตและกรรโชกทรัพย์
สำนักงานตำรวจนครบาลจาการ์ตา เปิดเผยว่า นายฟีร์ลี บาฮูรี ประธานคณะกรรมการกำจัดการทุจริตของอินโดนีเซีย หรือ เคพีเค ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีขู่กรรโชกทรัพย์ต่อนายสยาห์รูล ยาซิน ลิมโป อดีตรัฐมนตรีเกษตรกรรม หลังจากการสืบพยาน 91 ราย
หากพบว่ากระทำผิดจริง นายฟีร์ลีอาจต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าละเมิดมาตรา 12E และ/หรือมาตรา 12B และ/หรือมาตรา 11 ของกฎหมายการทุจริต ร่วมกับมาตรา 65 ของประมวลกฎหมายอาญา
ทั้งนี้ ตามกฎหมายอินโดนีเซีย ประธานาธิบดีต้องสั่งพักงานประธานฯ เคพีเค คนใดก็ตามที่มีชื่อเป็นผู้ต้องสงสัยทางอาญา แต่อย่างไรก็ตามนายอเล็กซานเดอร์ มาร์วาตา รองประธาน เคพีเค ยืนยันว่านายฟีร์ลียังคงดำรงตำแหน่งเป็นประธานหน่วยงานต่อต้านการทุจริตต่อไป "เรายังไม่มีคำสั่งจากประธานาธิบดี จนถึงขณะนี้ นายฟีร์ลียังคงดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริต และปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ"
นายสยาห์รูล ยาซิน ลิมโป อดีตรัฐมนตรีเกษตรกรรม ถูกควบคุมตัวในคดีทุจริตเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่นายฟีร์ลี ซึ่งเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจ ไม่ได้ถูกควบคุมตัว และปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า พบเอกสารธุรกรรมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ มูลค่า 7.4 พันล้านรูเปียห์อินโดนีเซีย หรือราว 16.8 ล้านบาท ที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวน
อาเด ซาฟรี สิมานจันทัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจาการ์ตา กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธว่า เจ้าหน้าที่มีหลักฐานเพียงพอที่เกี่ยวข้องกับนายฟีร์ลี ในคดีทุจริตที่ถูกกล่าวหา และกล่าวเสริมเสริมว่านายฟีร์ลีได้รีดไถเงินที่กระทรวงเกษตรตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2566 โดยมีการสัมภาษณ์พยานแล้วทั้งหมด 91 คนนับตั้งแต่เปิดคดีเมื่อเดือนตุลาคม
...
ก่อนที่จะถูกระบุชื่อเป็นผู้ต้องสงสัย นายฟีร์ลีกล่าวว่าเขา "ไม่เคยขู่กรรโชกใคร และฉันไม่เคยเกี่ยวข้องกับการติดสินบนกับใครเลย" ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์
ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขาจะเคารพกระบวนการทางกฎหมาย เมื่อถูกถามเกี่ยวกับคดีของนายฟีร์ลี.
อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign