กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ สั่งปรับเงิน ไบแนนซ์ แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนทรัพย์สินดิจิทัลรายใหญ่ของโลก ขณะที่ซีอีโอประกาศลาออกหลังรับผิดข้อหาฟอกเงิน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายจ้าว ฉางเผิง ซีอีโอของ ‘ไบแนนซ์’ (Binance) แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากเขายอมรับความผิดข้อหาฟอกเงิน ที่ศาลแขวงสหรัฐฯ ในเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน เมื่อ 21 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา
นายจ้าวระบุในโพสต์บน X หรือชื่อเดิมคือ ทวิตเตอร์ ว่า “ผมทำผิดพลาด และผมต้องรับผิดชอบ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดต่อสังคมของเรา, ต่อไบแนนซ์ และต่อตัวผมเอง"
ขณะที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ สั่งปรับเงิน ไบแนนซ์ จำนวน 4.3 พันล้านดอลลาร์ โดยระบุว่า แพลตฟอร์มนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรต่างๆ ที่บังคับใช้ทั่วโลกได้
“ไบแนนซ์ทำให้เกิดการทำธุรกรรมมูลค่าเกือบ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างผู้ใช้งานชาวอเมริกันกับอิหร่าน และอำนวยความสะดวกให้เกิดการทำธุรกิจมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ระหว่างผู้ใช้งานสหรัฐฯ กับผู้ใช้งานในซีเรีย และในแคว้นไครเมีย, โดเนตสก์ และลูฮานสก์ ของยูเครนที่ตอนนี้ถูกรัสเซียยึดครอง” โฆษกกระทรวงยุติธรรม ระบุ
ทั้งนี้ ไบแนนซ์ ซึ่งจดทะเบียนบริษัทที่หมู่เกาะเคย์แมน เป็นที่รู้จักในฐานะแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดของโลก รวมถึงเงินคริปโต อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบของสหรัฐฯ พยายามหาทางแบนแพลตฟอร์มนี้ โดยกล่าวหาว่า บริหารงานในประเทศอย่างผิดกฎหมาย
ขณะที่คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าล่วงหน้า (CFTC) ของสหรัฐฯ ยื่นฟ้องร้องต่อศาล โดยกล่าวหาไบแนนซ์ว่า บ่มเพาะธุรกิจของตัวเองในสหรัฐฯ โดยไม่ได้ลงทะเบียนกับทางการอย่างถูกต้องเหมาะสม นอกจากนั้นยังทำผิดกฎหมายการเงินของสหรัฐฯ หลายข้อ รวมถึงกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน
...
ไบแนนซ์ยังถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (SEC) กล่าวหาว่าเป็นเครือข่ายหลอกลวง โดย SEC ระบุว่า แพลตฟอร์มนี้รวมถึงนายจ้าว เพิกเฉยต่อกฎหมายซึ่งมีไว้สำหรับคุ้มครองนักลงทุน เพื่อรักษาการดำเนินการในสหรัฐฯ เอาไว้
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc