นายกฯ ลี เซียนลุง ประกาศจะลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ปลายปีหน้า ส่งมอบอำนาจบริหารประเทศให้แก่รองนายกฯ ลอว์เรนซ์ หว่อง
เว็บไซต์ แชนแนลนิวส์เอเชีย สื่อภาษาอังกฤษในสิงคโปร์รายงาน นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุงแห่งสิงคโปร์ วัย 71 ปี กล่าวต่อสมาชิกพรรคกิจประชาชน (PAP) ประกาศจะส่งมอบอำนาจบริหารประเทศให้แก่รองนายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง ก่อนจะถึงการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ซึ่งจะมีขึ้นภายในเดือนพฤศจิกายน 2568
นายลี เซียนลุง ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของสิงคโปร์ และเลขาธิการพรรคกิจประชาชน กล่าวเมื่อ 5 พ.ย.2566 ด้วยว่า หากทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรียบร้อยด้วยดี เขาจะลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ในโอกาสก่อตั้งพรรคกิจประชาชน (PAP) ครบรอบ 70 ปี ในวันที่ 21 พ.ย. 2567
...
แชนแนลนิวส์เอเชีย ระบุว่าการประกาศจะลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ของนายลี เซียนลุง เพื่อเปิดทางให้แก่นายลอว์เรนซ์ หว่อง รองนายกรัฐมนตรี วัย 50 ปีก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรครัฐบาล ‘กิจประชาชน’ คนใหม่ ถือเป็นแผนส่งมอบอำนาจภายในพรรค หลังจากก่อนหน้านี้ นายลอว์เรนซ์ หว่อง ได้รับการรับรองจากสมาชิกพรรคว่าเป็นผู้เหมาะสมที่จะเข้ามานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค PAP รุ่นที่ 4 หรือเรียกกันว่าหัวหน้าทีม 4G ภายหลังนายเฮง สวี เกียต (Heng Swee Keat) รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังของสิงคโปร์ วัย 62 ปี ได้ประกาศว่าเขาจะไม่ขอรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค PAP รุ่นที่ 4
นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง เคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาหวังจะก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก่อนจะถึงวันเกิด อายุ 70 ปี ซึ่งตรงกับเดือนกุมภาพันธ์ 2565 แต่ความตั้งใจนี้ต้องถูกล้มเลิกไป เนื่องจากเกิดโรคโควิด-19 ระบาดใหญ่ทั่วโลก และนายลี เซียน ลุงต้องบริหารประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติโรคโควิด-19 ไปได้เสียก่อน
กระทั่งมาถึงวันชาติสิงคโปร์ในปีนี้ ลี เซียนลุง ได้กล่าวว่าแผนส่งมอบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้กลับมาอยู่ตามแผนแล้ว พร้อมทั้งยังกล่าวด้วยว่า การรับรองให้นายหว่อง เป็นหัวหน้าพรรคกิจประชาชนคนใหม่ หรือหัวหน้าทีม 4G ถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่เขาทำ
ทั้งนี้ หากนายลอว์เรนซ์ หว่อง ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสิงคโปร์สืบต่อจากลี เซียนลุง ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของอดีตนายกรัฐมนตรีลี กวนยู และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์มาตั้งแต่ปี 2547 จะทำให้นายลอว์เรนซ์ หว่อง นับเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่สองของสิงคโปร์ ท่ีไม่ใช่มาจากคนในตระกูลลี ต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรีโก๊ะ จ๊ก ตง