เมื่อวันที่ 29 ต.ค. นายโรเบิร์ต ฟิโก นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสโลวะเกีย ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งไปเมื่อ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้แสดงจุดยืนต่อรัฐบาลสหภาพยุโรปในฐานะชาติสมาชิกว่า เป็นเรื่องเหมาะสมหรือไม่ที่ยุโรปจะเพิ่มงบช่วยเหลือยูเครน 50,000 ล้านยูโร หรือกว่า 1.91 ล้านล้านบาท ควรมาคิดกันก่อนว่าให้เงินไปแล้ว จะเปลี่ยนทิศทางของสงครามได้หรือไม่ หรือนี่คือการให้แบบตัดปัญหา ไม่ต้องสนใจว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร
ทั้งนี้ นายฟิโกยังกล่าวต่อผู้สื่อข่าวด้วยว่า ยูเครนถือเป็นหนึ่งในชาติที่มีการคอร์รัปชันสูงสุดในโลก จึงเป็นที่มาว่า รัฐบาลสโลวะเกียยินดีที่จะเพิ่มงบสำหรับสหภาพยุโรปเป็น 400 ล้านยูโรหรือกว่า 15,285 ล้านบาท ในกรอบเวลา 4 ปี เพียงแต่มีเงื่อนไขคือยุโรปจะต้องสัญญาว่างบส่วนนั้นจะไม่ถูกยูเครนเอาไปเล่นแร่แปรธาตุ สาเหตุที่ต้องมาพูดเช่นนี้ เนื่องจากมองว่าหลายประเทศสมาชิกก็เริ่มเห็นทางตัน ไม่มีแผนสันติภาพที่ชัดเจน รัฐบาลมีหน้าที่ต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ แต่ในเมื่อตอนนี้ยุโรปเทเงินให้ยูเครนไปเดือนละ 1,500 ล้านยูโร หรือประมาณ 57,300 ล้านบาทแบบไม่เกิดผลลัพธ์อะไร เป็นคำถามว่าจะให้สโลวะเกียทำอะไรต่อ ตัดงบประมาณสำหรับประชาชนของตัวเองหรืออย่างไร ทั้งที่ประเทศเราก็มีปัญหาต้องแก้ไขมากมาย.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่