เมื่อ 13 ต.ค.กระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่นยื่นคำร้องต่อศาลกรุงโตเกียวขอให้ถอดถอนสถานะทางกฎหมายของโบสถ์แห่งความสามัคคี พร้อมยื่นหลักฐานและเอกสารประกอบราว 5,000 ชิ้น จากการ สัมภาษณ์เหยื่อราว 150 คน ระบุว่าองค์กรนี้มีการจัดการอย่างเป็นระบบมานานหลายทศวรรษ พยายาม ควบคุมการตัดสินใจสมาชิก ให้ข้อมูลบิดเบือน เพื่อให้สมาชิกบริจาคเกินความสามารถทางการเงิน เป็นอันตรายต่อประชาชน จนสมาชิกครอบครัวของเหยื่อรายหนึ่งลั่นไกสังหารนายชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโบสถ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ แม้ศาลเห็นชอบ โบสถ์ยังคงดำเนินการต่อไปได้ เพียงแต่จะสูญเสียสิทธิพิเศษยกเว้นภาษีในฐานะองค์กรทางศาสนา.