รัสเซียได้รับคะแนนโหวตไม่พอกลับเข้าเป็นสมาชิกคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ โดยพวกเขาถูกไล่ออก หลังเริ่มทำสงครามในยูเครนเมื่อปีก่อน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2566 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ โหวตไม่รับรัสเซียกลับเข้าเป็นสมาชิก หลังจากมอสโกถูกขับออกไปในเดือนเมษายนปีก่อน ฐานยกทัพบุกโจมตียูเครนเต็มรูปแบบ และสงครามยังยืดเยื้อมาจนถึงทุกวันนี้

รัสเซียหวังใช้การได้เป็นสมาชิก คกก.สิทธิมนุษยชนยูเอ็น อีกครั้งเป็นเวลา 3 ปี เพื่อเน้นย้ำให้เห็นความแตกแยกภายในสมาชิกสหประชาชาติ ว่าพวกเขาจะให้การสนับสนุนยูเครนต่อไปหรือไม่

อย่างไรก็ตาม รัสเซีย ได้คะแนนเสียงสนับสนุนเพียง 83 เสียง จากทั้งหมด 193 ประเทศ ขณะที่อีก 2 ชาติที่ยื่นขอเข้าเป็นสมาชิกเช่นกันอย่าง บัลแกเรีย และแอลเบเนีย ได้คะแนนเสียงไป 160 เสียง กับ 123 เสียงตามลำดับ ได้เข้าไปนั่งเก้าอี้สมาชิกจากชาติยุโรปตะวันออก ซึ่งเหลืออีก 2 ที่นั่งแทน

การโหวตดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากรัสเซียยิงมิสไซล์โจมตีหมู่บ้านโฮรซา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 52 ศพ

ขณะที่ นายเฟริต ฮอกซา เอกอัครราชทูตแอลเบเนียประจำสหประชาชาติ กล่าวก่อนหน้าการลงมติว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ชาติสมาชิกสหประชาชาติต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขายังไม่พร้อมรับมือเพลิงเข้ามาเป็นนักดับเพลิง

ทั้งนี้ รัสเซียให้คำมั่นว่าพวกเขาจะหาทางออกอย่างเพียงพอสำหรับปัญหาสิทธิมนุษยชน และว่าพวกเขาต้องการหยุดยั้งไม่ให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มประเทศบางกลุ่ม พวกเขายังหาเสียงอย่างหนัก เสนอมอบธัญพืช และอาวุธให้แก่ประเทศขนาดเล็กแลกกับคะแนนโหวต

รัสเซียอ้างด้วยว่า หากลงมติอย่างเป็นการลับ พวกเขาจะได้คะแนนเสียงมากพอจากประเทศที่เข้าข้างพวกเขา แต่ไม่กล้าแสดงออกมาเพราะกังวลจะทำให้ชาติตะวันตกไม่พอใจ โดยนายวาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวหาสหรัฐฯ ว่า เป็นแกนนำแคมเปญขัดขวางไม่ให้พวกเขากลับเป็นสมาชิกคณะกรรมการ.

...

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc