ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มอาสาสมัครพบแมวถูกนำมาทิ้งไว้กลางทะเลทรายอาบูดาบีมากกว่า 140 ตัว โดย 50 ตัวในจำนวนนี้ตายไปแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มชาวบ้านในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์พบแมวมากกว่า 140 ตัวถูกทิ้งเอาไว้ในทะเลทรายในกรุงอาบูดาบี เมืองหลวงของประเทศ ขณะที่องค์กรสิทธิสัตว์ระหว่างประเทศออกมาวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์นี้อย่างหนัก ส่วนทางการยูเออีเริ่มการสืบสวนหาข้อเท็จจริง

นายชิคู เชอร์กิลล์ ชาวกรุงอาบูดาบีหนึ่งในอาสาสมัครผู้ร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือเผยว่า แมวหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงสายพันธุ์ต่างถิ่นอย่าง เปอร์เซีย ถูกทิ้งเอาไว้ภายในกรงของพวกมัน หรือให้เร่ร่อนในทะเลทรายโดยไม่มีน้ำ, ที่กำบัง หรือน้ำ โดยนับตั้งแต่ 28 ก.ย. พวกเขาเจอแมวเสียชีวิต 50 ตัว และช่วยเหลือได้ 95 ตัว

นอกจากนั้นพวกเขายังช่วยเหลือสุนัขโกลเดนรีทรีฟเวอร์ 1 ตัวและพบสุนัขฮัสกีเสียชีวิต 1 ตัว โดยสัตว์ที่พบบางตัวได้รับการฝังชิพด้วย บ่งชี้ว่าพวกมันเคยเป็นสัตว์เลี้ยงมาก่อน

เมื่อเดือนกันยายนอุณหภูมิในกรุงอาบูดาบีสูงถึง 40.5 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิในทะเลทรายตอนกลางวันสามารถสูงได้มากกว่านี้อีก

อนึ่ง หมาและแมวดังกล่าวถูกทิ้งทั่วพื้นที่ระหว่างถนนหลวงที่เชื่อมต่อกับศูนย์พักพิงสัตว์อาบูดาบีในเมืองฟาลาห์ โดยทางศูนย์บอกกับซีเอ็นเอ็นว่า พวกเขาไม่ทราบเรื่องแมวถูกทิ้งเลยและปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเพิ่มเติม

องค์กรเพื่อสิทธิสัตว์ ‘พีต้า’ (PETA) ประกาศจะมอบเงินรางวัลจำนวน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่ใครก็ตามที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่นำแมวเหล่านี้มาทิ้งในทะเลทราย โดยย้ำว่า พฤติกรรมความโหดร้ายนี้ต้องไม่ถูกซุกไว้ใต้พรม

ส่วนสำนักงานเทศบาลและการคมนาคมแห่งอาบูดาบี ระบุในวันพุธที่ผ่านมาว่า พวกเขาจะสืบสวนกรณีนี้ โดยขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยแจ้งข้อมูล และว่าพวกเขากำลังใช้มาตรการต่างๆ เพื่อหาตัวคนที่ต้องรับผิดชอบ

...

ขณะที่องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการคุ้มครองสัตว์ (OIPA) ออกแถลงการณ์ระบุว่า เหตุการณ์ล่าสุดนี้ไม่ใช่เหตุการณ์เดียวที่เกิดขึ้น จุดทิ้งสัตว์เลี้ยงถูกพบอยู่ทั่วอาบูดาบีและดูไบ ซึ่งพวกเขารณรงค์ในยูเออีให้มีการช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้มานานหลายปีแล้ว

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cnn