สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายขวาจัดของพรรครีพับลิกัน ยื่นเรื่องปลดนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ พ้นจากตำแหน่ง

เมื่อวันจันทร์ (2 ต.ค.) นายแมตต์ เกตซ์ สมาชิกสภาผู้แทนพรรครีพับลิกันฝ่ายขวาจัด จากรัฐฟลอริดา ยื่นเรื่องขอปลดนายเควิน แมคคาร์ธี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน ออกจากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำให้เกิดความวุ่นวายอีกครั้งในสภาคองเกรส

นายเกตซ์ ซึ่งปะทะกับนายแมคคาร์ธี มาเป็นเวลาหลายเดือนได้เสนอ "ญัตติที่จะปลดออกจากตำแหน่ง" ที่จะบังคับให้มีการลงคะแนนเสียงให้ถอดนายแมคคาร์ธีออกจากตำแหน่งประธานสภาฯ หลังจากนั้นเขาได้จัดการแถลงข่าวอย่างกะทันหันซึ่งเขารับทราบว่าความพยายามของเขาอาจล้มเหลว

ขณะที่นายแมคคาร์ธี กล่าวท้าทายผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ว่า "เอาเลย" ด้านนายเกตซ์กล่าวตอบโต้กลับว่า "เพิ่งทำ"

ความตึงเครียดระหว่างสมาชิกพรรครีพับลิกันทั้งสองปะทุขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ หลังจากที่นายแมคคาร์ธีผ่านร่างกฎหมายโดยได้รับความช่วยเหลือจากพรรคเดโมแครตในการจัดสรรงบประมาณชั่วคราวแก่หน่วยงานต่างๆ ของรัฐ ที่ทำให้สหรัฐฯ ไม่ต้องปิดหน่วยงานที่ได้รับงบจากรัฐบาลกลาง หรือที่เรียกว่า "ชัตดาวน์" ไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงเส้นตายเมื่อวันที่ 30 ก.ย.

ทั้งนี้ ไม่เคยมีประธานรัฐสภาสหรัฐฯ ที่ถูกขับไล่โดยการยื่นญัตติให้พ้นจากตำแหน่งเช่นนี้ ผู้นำมีเวลาสองวันในการร่างมาตรการลงคะแนนเสียง แม้ว่าจะใช้เครื่องมือในขั้นตอนเพื่อขัดขวางกระบวนการก็ตาม

ประธานสภาผู้แทนฯ เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจรองจากประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาหรือเธอเป็นผู้กำหนดลำดับความสำคัญด้านกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎร ควบคุมการมอบหมายงานของคณะกรรมการ และสามารถเสนอหรือยกเลิกวาระของทำเนียบขาวได้

...

ข้อตกลงดังกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์ของรัฐบาล ยกเลิกการให้เงินสนับสนุนจำนวน 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับยูเครน เนื่องจากนายเกตซ์ และกลุ่มอนุรักษนิยมสุดขั้วอื่นๆ ยืนยันว่าสหรัฐฯ ใช้เงินมากเกินไปในการทำสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย

นายเกตซ์เคยขู่ที่จะโค่นตำแหน่งนายแมคคาร์ธี นับตั้งแต่เดือนมกราคม เมื่อเขานำกลุ่มต่อต้านในพรรคคัดค้านการเสนอนายแมคคาร์ธี สส.รีพับลิกันจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ ทำให้เขาต้องอดทนต่อการลงคะแนนเสียงถึง 15 รอบในสภาฯ

ในระหว่างการเจรจาต่อรองทางการเมือง ก่อนที่เขาจะได้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวในที่สุด นายแมคคาร์ธีตกลงที่จะเปลี่ยนแปลงกฎที่จะอนุญาตให้ สส.คนใดคนหนึ่งสามารถเรียกร้องให้มีคะแนนเสียงเพื่อขับไล่ประธานสภาฯ ได้

หลังจากยื่นคำร้องให้ออกจากตำแหน่ง นายเกตซ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวจำนวนมากว่า "ผมรวบรวมสมาชิกพรรครีพับลิกันได้มากพอแล้ว ซึ่ง ณ จุดนี้ในสัปดาห์หน้า หนึ่งในสองสิ่งที่จะเกิดขึ้น"

"เควิน แมคคาร์ธี จะไม่ได้เป็นประธานสภาฯ หรือเขาจะเป็นประธานสภาฯ ที่ทำงานตามความพอใจของพรรคเดโมแครต และผมก็พอใจกับผลลัพธ์ทั้งสองอย่าง เพราะคนอเมริกันสมควรที่จะรู้ว่าใครเป็นผู้ปกครองพวกเขา"

นายเกตซ์ยังกล่าวว่าเขาพร้อมให้การสนับสนุนนายสตีฟ สคาลิซ สส.จากรัฐลุยเซียนา ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ เพื่อดำรงตำแหน่งประธานต่อจากนี้

ตามกฎของสภาฯ ประธานสภาฯ จะต้องเก็บรายชื่อบุคคลที่อาจทำหน้าที่แทนชั่วคราวได้ในกรณีที่ตำแหน่งนั้นว่างลง หากนายแมคคาร์ธีถูกโหวตออก รายชื่อนี้จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ และบุคคลที่อยู่อันดับต้นๆ จะถูกเสนอชื่อเป็นประธานชั่วคราว จนกว่าจะมีการเลือกประธานสภาฯ คนใหม่ ที่มาจากพรรคที่มีเสียงข้างมากในสภา โดยสภาผู้แทนฯ จะต้องใช้เสียงข้างมากในการถอดถอนประธานสภาฯ ด้วยคะแนนเสียงขั้นต่ำ 218 เสียง 

พรรครีพับลิกันควบคุมสภาผู้แทนฯ ด้วยเสียงข้างมาก 221 ต่อ 212 เสียง แต่มีสมาชิกพรรครีพับลิกันสายแข็งกร้าวเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ระบุว่า พวกเขาเต็มใจที่จะถอดถอนนายแมคคาร์ธี.

ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign