ผลการศึกษาล่าสุด ชี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเป็นเหตุให้ลิเบียต้องประสบภัยน้ำท่วมหนักขึ้นถึง 50 เท่า ทั้งยังทำให้มีฝนตกมากขึ้น 50%

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์กร World Weather Attribution (WWA) สถาบันวิจัยอิสระ เผยผลการศึกษาใหม่พบว่า ภาวะเรือนกระจก และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ เป็นสาเหตุให้ประเทศลิเบียต้องประสบภัยพิบัติน้ำท่วมหนักขึ้น 50 เท่า อีกทั้งยังทำให้มีฝนตกมากขึ้นถึง 50% 

ประเทศลิเบีย เพิ่งประสบเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในเมืองเดอร์นา อันเป็นผลพวงมาจากพายุแดเนียลที่พัดเข้าทางตะวันออกของประเทศ คร่าชีวิตผู้คนมากกว่าหนึ่งหมื่นราย และยังสูญหายอีกจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่คาดว่าเสียชีวิตแล้ว

ผลการศึกษาชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่าเพราะเหตุใดอุทกภัยในลิเบียถึงมีความรุนแรง แต่ทั้งนี้ สถาบัน WWA ระบุเพิ่มเติมว่า ยังมีปัจจัยอื่นควบคู่ไปด้วยที่ทำให้ลิเบียประสบภัยพิบัติครั้งใหญ่ อาทิ การสร้างบ้านเรือนในพื้นที่รับน้ำท่วม การขาดการบำรุงรักษาเขื่อนกักเก็บน้ำ และอื่นๆ ทำให้ท้ายที่สุดเหตุน้ำท่วมกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดจากภัยธรรมชาติ และฝีมือมนุษย์

โดยการศึกษา นักวิทยาศาสตร์ได้อาศัยการจำลองทางคอมพิวเตอร์เพื่อประเมินว่าพายุดังกล่าวมีโอกาสเกิดขึ้นมากเพียงใดเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ร้อนขึ้น 1.1 องศาเซลเซียส แต่ทั้งนี้ สถาบัน WWA กล่าวว่า ยังขาดข้อมูล โดยเฉพาะในลิเบีย ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในผลการศึกษา

จูลี อาร์ริกี ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิอากาศ สภาเสี้ยววงเดือนแดง กล่าวว่า ภัยพิบัติในลิเบียสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแบบสุดขั้ว ซึ่งเมื่อมาบวกกับปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์ ทำให้ความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมในลิเบียทวีความรุนแรงขึ้น

...

ทั้งนี้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าภัยพิบัติในลิเบียครั้งนี้สามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ได้ หากลิเบียมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ 

นอกจากนี้ผลการศึกษายังพบว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศทำให้พื้นที่บริเวณตอนบนของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมีโอกาสประสบภัยพิบัติมากขึ้น 10 เท่า และทำให้มีฝนตกมากขึ้น 40% 

ซึ่งเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ประเทศกรีช ตุรกี บัลแกเรีย และสเปน ต่างถูกพายุแดเนียลเข้าโจมตี แต่อิทธิพลของพายุไม่ได้สร้างผลกระทบร้ายแรงเหมือนในลิเบีย.

ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : BBCUSA Today