6 กันยายน 2023 สภากรุงเทพมหานครมีการประชุมวิสามัญสมัยที่ 2 (ครั้งที่ 1) ประจำ ค.ศ.2023 ผ่านข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องงบประมาณประจำ ค.ศ.2024 รวม 90,570,138,630 บาท กทม.บริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยความสามารถของผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และฝ่ายสภาที่สมาชิกทั้ง 50 คน เข้มแข็งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

5 กันยายน 2023 สภาเมืองเบอร์มิงแฮม ท้องถิ่นใหญ่อันดับ 2 ของอังกฤษบอกว่าการบริหารเมืองเบอร์มิงแฮมใน ค.ศ.2024 ที่ต้องใช้งบประมาณ 3,200 ล้านปอนด์ หรือ 142,550 ล้านบาทนั้น เมืองมีเงินไม่พอ จึงมีมติผ่านมาตรา 114 ส่งสัญญาณว่าสภาไม่มีทรัพยากรในการจัดทำงบประมาณสมดุล เขียนให้เข้าใจง่ายก็คือ สภาเมืองเบอร์มิงแฮมประกาศล้มละลายนั่นเอง

ผู้บริหารเมืองตัดลดงบประมาณแล้วก็ยังไปไม่รอด ตอนนี้มีคนงานเรียกร้องค่าจ้างที่เท่าเทียมกัน ทำให้สภาฯ ต้องจ่ายเงินชดเชยกว่า 760 ล้านปอนด์ ต้องแก้ปัญหาในการติดตั้งระบบไอที การเก็บขยะ จัดงบประมาณให้โรงเรียน ทำความสะอาดถนน ดูแลผู้สูงวัย ฯลฯ ซึ่งทุกอย่างต้องใช้เงินทั้งนั้น

หลังจากออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป เศรษฐกิจของอังกฤษก็เป๋ แล้วมาเป๋หนักขึ้นหลังจากโควิด-19 ที่ทำให้เป๋ที่สุดก็คือ การไปร่วมมือกับสหรัฐฯ หนุนอูเครนให้ทำสงครามกับรัสเซีย ตอนนี้ทุกทั่วหัวระแหงในอังกฤษ ไม่ว่าองค์กรรัฐหรือเอกชน ต่างหารายได้ได้ไม่พอรายจ่าย หลังจากเมืองเบอร์มิงแฮมประกาศล้มละลายแล้ว ก็น่าจะมีอีกมากมายหลายเมืองที่ออกมายอมรับว่าเมืองของตนเผชิญกับวิกฤติไม่มีเงินเพียงพอต่อการบริหารงาน และมีความเสี่ยงที่จะต้องประกาศล้มละลายในอีกประมาณ 2 ปีข้างหน้า

ที่ออกมาตีหน้าเศร้าเล่าความจริงแล้วในตอนนี้ก็มีสภาเมืองเคิร์กลีส์ (Kirklees) สภาเมืองเฮสติงส์ (Hastings) สภาเมืองเวสต์เบิร์กเชียร์ (West Berkshire) สภาเมืองเดอร์บี้ (Derby) สภาเมืองโคเวนทรี (Coventry) สภาเมืองสโต๊กออนเทรนด์ (Stoke-on-Trent) เขียนได้ไม่หมดดอกครับ รวมๆแล้วที่อาจจะต้องประกาศล้มละลายมีอยู่ 26 แห่ง

...

สมาชิกสภาเมืองเบอร์มิงแฮมต้องหารือถึงผลกระทบของการล้มละลายภายใน 21 วัน หลังจากนั้น ต้องส่งสัญญาณไปยังรัฐบาลกลางว่ารัฐบาลท้องถิ่นเมืองเบอร์มิงแฮมประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ต้องขอให้รัฐบาลกลางช่วยเหลือ ซึ่งเรื่องนี้น่าจะยุ่งยากมากมาย เพราะเท่าที่ทราบ รัฐบาลกลางของอังกฤษก็เจอปัญหาเศรษฐกิจหนักหนาสาหัสเช่นเดียวกัน เมืองของอังกฤษที่เตรียมล้มละลายไม่ใช่มีแค่เมืองสองเมือง แต่รวมกันแล้วมีหลายสิบเมือง
ถ้าช่วยเมืองหนึ่ง ก็ต้องช่วยเมืองอื่นที่มีเงินไม่พอด้วย

อันที่จริง เศรษฐกิจของอังกฤษซวนเซเรรวนชวนเสียวสยองมาสักระยะหนึ่งแล้ว เมื่อเดือนมิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา สภาเมืองวอกกิ้ง (Woking) ออกมายอมรับว่าไม่มีเงิน (แต่ก็ไม่ประกาศล้มละลาย) ทนทำงานไปโดยที่ไม่มีสตางค์บริหาร สภาเมืองเซอร์เรย์ (Surrey) ออกมายอมรับแล้วว่าขาดเงิน 1,200 ล้านปอนด์ และยังมีอีกสภาเมืองอีกหลายแห่งที่ออกมายอมรับว่าไม่มีเงินพอที่จะดูแลเมือง ไม่ว่าจะสภาเมืองเธอร์ร็อก (Thurrock) เมืองสลัฟ (Slough) เมืองครอยดอน (Croydon) เมืองนอร์ทแธมป์ตันเชียร์ (Northamptonshire) ฯลฯ

ตอนนี้ดอกเบี้ยธนาคารในอังกฤษสูงจนคนยากที่จะซื้อบ้าน ที่ซื้อไปแล้วก็ผ่อนกันไม่ไหว ปัญหาอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษก็กำลังมีปัญหารุนแรง ไม่ใช่เฉพาะอังกฤษ เศรษฐกิจของยุโรปกำลังถดถอยซบเซา อันที่จริงธุรกิจในอังกฤษและยุโรปทยอยล้มละลายเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ ค.ศ.2015 หนึ่งปีหลังจากที่เริ่มร่วมกับสหรัฐฯแซงก์ชันรัสเซีย

เมื่อบวกกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของจีน ก็ทำให้เกิดความตระหนกตกใจไปทั้งโลก ที่ยังพออยู่ได้อย่างสบายก็จะเป็นกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและอินเดีย

สมัยก่อน คนอินเดียและตะวันออกกลางหนีความยากจนด้วยการอพยพไปอยู่อังกฤษและยุโรป ตอนนี้ พวกที่ย้ายไปกำลังเตรียมการอพยพย้ายกลับ

เมื่อตะวันออกกลางสงบ ไม่มีสงคราม ความมั่งคั่งก็เกิด.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com

คลิกอ่านคอลัมน์ "เปิดฟ้าส่องโลก" เพิ่มเติม