สหภาพแรงงานของห้างสรรพสินค้าชื่อดังของญี่ปุ่น นัดหยุดงานประท้วงในกรุงโตเกียว หลังบริษัทแม่ต้องการขายกิจการให้กับบริษัทลงทุนของสหรัฐฯ แม้พนักงานจะต่อต้านก็ตาม

พนักงานของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในกรุงโตเกียวนัดหยุดงานประท้วงในวันนี้ (31 ส.ค.) ภายหลังการเจรจากับฝ่ายบริหารเกี่ยวกับแผนการขายกิจการประสบความล้มเหลว ถือเป็นการหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบกว่า 60 ปี

พนักงานราว 900 คนที่ห้างสรรพสินค้าเซบู ในย่านอิเคะบุคุโระ จัดการชุมนุมประท้วงแผนการขายบริษัท โซโก แอนด์ เซบู (Sogo & Seibu) ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งในเครือค้าปลีกยักษ์ใหญ่ เซเวน แอนด์ไอ (Seven & i) ให้กับกองทุนฟอร์เทรส อินเวสต์เมนต์ กรุ๊ป (Fortress Investment Group) ของสหรัฐฯ

กลุ่มพนักงานเรียกร้องให้บริษัทแสดงการรับประกันว่าพวกเขาจะยังคงมีงานทำต่อไป รวมถึงความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงแสดงความไม่พอใจต่อแผนการให้ผู้ค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ลดราคาอย่าง "โยโดบาชิ โฮลดิงส์" (Yodobashi Holdings) เข้ามาครอบครองพื้นที่ในห้างประมาณครึ่งหนึ่ง ด้านบรรดานักวิจารณ์และเจ้าหน้าที่ในอิเคะบุคุโระ กล่าวแย้งว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่งจะเข้ามาแทนที่ร้านบูติกหลายแห่งในห้าง จะทำให้ภาพลักษณ์ของห้างดูแย่ลงเช่นกัน

การนัดหยุดงาน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนักในญี่ปุ่น โดยการเจรจาเรื่องค่าจ้างและสภาพการทำงานมักจะได้รับการตกลงกันภายใน การหยุดงานประท้วง 1 วันครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของญี่ปุ่นในรอบ 61 ปี เกิดขึ้นหลังจากการเจรจาระหว่างฝ่ายบริหารของ โซโก แอนด์ เซบู และสหภาพแรงงาน นานหลายเดือน

ในช่วงเช้าวันนี้ พนักงานของเซบู ออกมาประท้วงบริเวณหน้าห้าง ในขณะที่สมาชิกของสหภาพแรงงานคนอื่นๆ แจกใบปลิว โดยมีสื่อมวลชนมาทำข่าวจำนวนมาก ด้านบริษัทเซเวน แอนด์ไอ ออกมาขอโทษสำหรับการนัดหยุดงาน และกล่าวว่าบริษัทในเครือจะยังคงเจรจากับสหภาพต่อไป ส่วนห้างสรรพสินค้าเซบู และโซโก สาชาอื่นๆ ยังเปิดให้บริการตามปกติ

...

กองทุนฟอร์เทรส อินเวสต์เมนต์ กรุ๊ป ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ขณะที่ตัวแทนของโยโดบาชิ โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของกองทุนฟอร์เทรสในข้อตกลงนี้ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ

ด้านแหล่งข่าวระบุว่า แม้จะมีการประท้วงหยุดงาน แต่เซเวน แอนด์ไอ วางแผนที่จะประกาศการขายอย่างเป็นทางการในวันนี้ ในราคาที่ต่ำกว่า 250,000 ล้านเยน หรือราว 60,000 ล้านบาท ที่กำหนดไว้ในตอนแรก เซเวนแอนด์ไอ กล่าวว่า ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ

การนัดหยุดงานดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางตลาดแรงงานญี่ปุ่นที่อยู่ในภาวะตึงตัว ซึ่งพนักงานในบริษัทขนาดใหญ่ ได้รับการขึ้นค่าจ้างครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ ในการเจรจาด้านแรงงานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ อย่างไรก็ตาม ค่าจ้างที่สูงขึ้นก็ได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 41 ปี และค่าจ้างที่แท้จริงยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง

พนักงานของโซโก แอนด์ เซบู ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มสหภาพแรงงานจากห้างสรรพสินค้าคู่แข่งอย่าง ทาคาชิมายะ, อิเซตัน มิตซูโคชิ, ไดมารุ มัตสึซากายะ และฮันคิว ฮันชิน ซึ่งเข้าร่วมงานแถลงข่าวเพื่อประกาศการนัดหยุดงาน

ตามรายงานของสื่อ ห้างสรรพสินค้าเซบู อิเคะบุคุโระ ถือเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่เป็นอันดับสามของญี่ปุ่น เมื่อพิจารณาจากยอดขาย แต่บริษัทโซโก แอนด์ เซบู ตกอยู่ในภาวะหนี้สินในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และมีหนี้ประมาณ 300,000 ล้านเยน หรือราว 72,000 ล้านบาท.

ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign