แต่ก่อนง่อนชะไร สหรัฐฯและประเทศตะวันตกควบคุมโลกด้วยสื่อขนาดใหญ่ๆ เช่น New York Times, Washington Post, Wall Street Journal, Los Angeles Times, Times, Newsweek, U.S.A. and World Report สำนักข่าว AP, CNN ฯลฯ

ปัจจุบันทุกวันนี้ ด้วยอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย สหรัฐฯและคณะควบคุมโลกอย่างเดิมไม่ได้แล้ว การที่จะให้โลกอยู่ภายใต้มหาอำนาจขั้วเดียวเป็นความคิดที่ล้าสมัย

ประเทศที่โดนสหรัฐฯและพวกเข้าไปแทรกแซงมักจะพังหรือไม่ก็เกิดสงครามความขัดแย้งยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการบุกสาธารณรัฐโดมินิกัน เวียดนาม การปฏิวัติในชิลี ความขัดแย้งในกรณีเรือมายาเกซระหว่างสหรัฐฯกับกัมพูชา สงครามอ่าวเปอร์เซีย ฯลฯ

ย้อนหลังกลับไปในอดีต ผู้นำประเทศไหนเผลอด่าสหรัฐฯ ไม่นานก็จะโดนสอยร่วง แต่สมัยนี้มีผู้นำบานเบอะเยอะแยะที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯอย่างตรงไปตรงมา

เสาร์ 26 สิงหาคม 2566 ฯพณฯ ปีเตอร์ ซิยาร์โท รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการี ขึ้นเวทีในงานการเมืองแห่งหนึ่ง แกตะโกนผ่านไมโครโฟนว่า “ยุโรปกำลังเป็นตัวตลกบนเวทีโลก เรากำลังทำลายตัวเองโดยการสนับสนุนอูเครน และด้วยการคว่ำบาตรรัสเซีย” “มันเป็นคำโอ้อวด (ของพวกเรา) ซึ่งเกินความจริงที่อ้างว่า มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียประสบความสำเร็จด้วยการที่เราทึ้งเศรษฐกิจรัสเซียออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย” “(ในความเป็นจริง) นโยบายคว่ำบาตรของเราล้มเหลว ทุกหนทุกแห่งในโลกกำลังหัวเราะเยาะเย้ยนโยบายคว่ำบาตรของยุโรป”

ผู้อ่านท่านที่เคารพ สถานการณ์ความเป็นจริง เป็นไปตามที่ รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการีพูดนั่นละครับ ทั้งที่ฮังการีเป็นสมาชิกสำคัญของสหภาพยุโรป สหภาพยุโรปมีนโยบายคว่ำบาตรรัสเซียอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ตั้งแต่รัสเซียปฏิบัติการทางทหารในอูเครน สหภาพยุโรปก็คว่ำบาตรรัสเซียติดต่อกันอย่างต่อเนื่องมานานถึง 11 ครั้ง

...

ผู้นำประเทศของสหภาพยุโรปแห่งหนึ่งพูดตอนคว่ำบาตรรัสเซียครั้งแรกว่า ถ้าเราคว่ำบาตรรัสเซีย เศรษฐกิจรัสเซียจะต้องล่มสลายแน่ ปูตินจะต้องมาคุกเข่าเพื่อให้พวกเราสหภาพยุโรปให้ความเมตตากรุณาอนุเคราะห์ มาขอให้เราเลิกคว่ำหงาย เอ๊ย เลิกคว่ำบาตร ถ้าไม่มาขอ รัสเซียจะต้องแตกกระจัดพลัดพรายกลายเป็นประเทศสิ้นไร้ไม้ตอกเหมือน ค.ศ.1991

การคว่ำบาตรครั้งที่ 1 ผ่านไป รัสเซียก็เฉย ครั้งที่ 2 ก็เฉย ครั้งที่ 3 ก็เฉย จนกระทั่งถึงครั้งที่ 11 รัสเซียก็ยังเฉย แถมมองไปที่พวก สหภาพยุโรปเหมือนกับถามว่าพวกเอ็งเล่นอะไรกัน พวกเอ็งคว่ำบาตรรัสเซียซึ่งเป็นประเทศที่อำนวยพลังงานให้กับพวกเอ็ง คิดกลับบ้างหรือเปล่าว่า บั้นปลายท้ายที่สุด พวกเอ็งนั่นแหละจะลำบากซะเอง

26 สิงหาคม 2023 โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปตะโกนก้องร้องไชโย (ปฏิบัติการจิตวิทยาให้พวกตนฮึกเหิม) ว่า “มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของพวกเราชาวสหภาพยุโรปได้ผลและจับต้องได้ มองไปทุกตรอกซอกมุมของแผ่นดินรัสเซียซีท่าน มันพวกรัสเซียมันกำลังแย่”

นายบอร์เรลโม้จนน้ำลายย้อยออกมาทางมุมปาก หลายคนได้ฟังแล้วก็เชื่อ เพราะไอ้หมอนี่เป็นหัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู 27 ประเทศ มีตำแหน่งใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มเอิ้มอ้าม ทันทีที่นายบอร์เรลโม้จบ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ก็เบรกการโม้ของนายบอร์เรลว่า อ้า ท่านตื่นเถิด เศรษฐกิจรัสเซียไม่ได้ติดลบและกำลังจะล่มสลายหายไปอย่างที่ท่านพล่าม ไอเอ็มเอฟเก็บข้อมูลศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบ ขอยืนยันว่า เศรษฐกิจรัสเซียใน ค.ศ.2023 จะเติบโตร้อยละ 0.7 และใน ค.ศ.2024 จะเติบโตได้ถึงร้อยละ 1.3 แม้การเติบโตในตัวเลขขนาดนี้จะน้อย แต่ก็ยังดีที่เศรษฐกิจไม่ติดลบอย่างที่ท่านอภิพญาหัวหน้าฝ่ายต่างประเทศของอียูโม้

ธนาคารโลกหรือ World Bank ออกมาร่วมเบรกพ่อยอดชายนายบอร์เรลเช่นกันว่า ที่เศรษฐกิจจะล่มสลาย ไม่ใช่รัสเซีย แต่อาจจะเป็นสหภาพยุโรป คือเป็นพวกท่าน 27 ประเทศนั่นแหละ เพราะดันไปตัดตัวเองจากรัสเซียซึ่งเป็นชาติที่อำนวยพลังงานรายใหญ่ที่สุดของท่าน

ธนาคารโลกบอกว่า อ้า สงครามทำให้รัสเซียเด้งขึ้นมาเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่สุดอันดับ 5 ของโลก ณ เวลานี้ เศรษฐกิจรัสเซียแซงหน้าเศรษฐกิจเยอรมนีไปแล้ว.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com

คลิกอ่านคอลัมน์ "เปิดฟ้าส่องโลก" เพิ่มเติม