ตำรวจในอินเดียกำลังดำเนินการสืบสวน หลังมีคลิปวิดีโอเผยแพร่บินอินเทอร์เน็ต แสดงให้เห็น ครูหญิงโรงเรียนเอกชนบังคับลูกศิษย์ให้ตบหน้าเพื่อนร่วมชั้นวัย 7 ขวบ ซึ่งเป็นชาวมุสลิม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 26 ส.ค. 2566 ว่า คลิปวิดีโอซึ่งเผยแพร่บนโลกออนไลน์แสดงให้เห็นภาพครูผู้หญิงคนหนึ่งบอกให้เด็กๆ ในห้องตบหน้าเพื่อนนักเรียนวัย 7 ขวบอีกคน ซึ่งกำลังยืนร้องไห้ ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจและเรียกเสียงประณามจากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นวงกว้าง
ข่าวระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในรัฐอุตตรประเทศ ทางเหนือของอินเดีย โดยอ้างว่าครูคนดังกล่าวกำลังลงโทษนักเรียนชายชาวมุสลิมรายนี้ฐานเขียนตารางสูตรคูณผิด
“ทำไมตบเบาแบบนี้ ตบแรงๆ” เสียงของครูผู้หญิงที่ได้ยินจากในคลิปวิดีโอบอกกับเด็กนักเรียนในห้อง ในขณะที่เด็กชายวัย 7 ขวบ กำลังยืนร้องไห้ “เปลี่ยนไปตีที่เอว หน้าเขาแดงไปหมดแล้ว ไปตีที่เอวแทน” เธอกล่าวต่อ
ทางการอินเดียยืนยันแล้วว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และพวกเขาจะดำเนินการเอาผิดกับครูคนนี้ ด้านพ่อของเด็กที่ตกเป็นเหยื่อแจ้งความกับตำรวจ ในเขตมูซาฟฟาร์นาการ์แล้ว และให้ลูกลาออกจากโรงเรียน แต่ไม่ได้ยื่นฟ้องร้องเอาผิดกับครูผู้ก่อเหตุ
ทั้งนี้ กลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มเตือนว่า เหตุอาชญากรรมและความรุนแรงจากความเกลียดชังต่อชาวมุสลิมซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยในอินเดีย เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี รับตำแหน่งในปี 2557 และพรรคภารตียชนตา (BJP) ซึ่งเป็นพรรคฮินดูของเขา ก็ปกครองรัฐอุตตรประเทศมาตั้งแต่ปี 2560 แล้ว
ด้านนายราหุล คานธี ผู้นำฝ่ายค้านของอินเดีย ออกมากล่าวโทษรัฐบาลว่าทำให้ความแตกแยกทางศาสนาในประเทศรุนแรงขึ้น “การฝังยาพิษที่เรียกว่าการเลือกปฏิบัติลงไปในจิตใจของเด็กๆ ผู้บริสุทธิ์ เปลี่ยนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างโรงเรียนให้กลายเป็นสถานที่แห่งความเกลียดชัง”
...
“นี่เป็นน้ำมันก๊าดแบบเดียวกันกับที่ BJP สาดไปทั่ว ซึ่งทำให้ทุกซอกทุกมุมของอินเดียลุกเป็นไฟ” นายคานธีกล่าว
ที่มา : bbc