ผมนั่งเขียนต้นฉบับวันนี้ในวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม และจะลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประจำวันพุธที่ 23 สิงหาคม ซึ่งถ้าไม่มีอะไรขัดข้องทางเทคนิควันที่ 22 สิงหาคม หรือเมื่อวานนี้จะเป็นวันที่ประเทศเพื่อนบ้านรั้วติดกันอันได้แก่ ไทย และกัมพูชาจะได้นายกรัฐมนตรีใหม่และรัฐบาลใหม่ในวันเดียวกัน

กัมพูชา ได้นายกฯใหม่มาหลายวันแล้ว หลังจากพรรคประชาชนกัมพูชา ของท่าน ฮุน เซน ได้ชัยชนะเด็ดขาด...ท่านฮุน เซนที่อยู่ในตำแหน่งนายกฯมาเกือบ 40 ปี ก็ประกาศลงจากตำแหน่งส่งไม้ต่อให้แก่คุณ ฮุน มาเนต ลูกชายคนโตเป็นที่เรียบร้อย

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ฮุน มาเนต วัย 45 ปี จากพระมหากษัตริย์กัมพูชาไปตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม เพียงแต่ยังไม่ได้เข้าบริหารประเทศ ต้องรอวันประชุมรัฐสภากัมพูชาอังคาร 22 สิงหาคมเพื่อรับรองรัฐบาลใหม่เสียก่อน

ป่านฉะนี้ รายชื่อรัฐมนตรีทั้งคณะของกัมพูชาคงจะได้รับการรับรองจากรัฐสภากัมพูชาแล้ว ส่งผลให้ คุณ ฮุน มาเนต เป็นนายกฯเต็มตัวตั้งแต่เมื่อวานนี้ 22 สิงหาคม 2566 เป็นต้นมา

ส่วนท่าน ฮุน เซน จะขึ้นไปดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาทำหน้าที่กำกับดูแลให้คำปรึกษารัฐบาลของลูกชายอยู่ใกล้ๆนั่นเอง

ผมติดตามประวัติของนายกฯเขมรคนใหม่ ฮุน มาเนต มาพอสมควร เพราะทราบมานานแล้วว่าท่าน ฮุน เซน เตรียมปั้นลูกชายคนโตของท่านคนนี้แทนท่าน และส่งไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ

ฮุน มาเนต เรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยทหารบกสหรัฐฯ ที่เรียกกันว่า “เวสต์พอยต์” หรือบ้านเรามักออกเสียงว่า “เวสต์ป๊อยต์” ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยทหารที่ยอดเยี่ยมแห่งหนึ่งของ “โลก”

...

ก่อนกลับบ้านยังจบปริญญาโทจาก NYU หรือ New York University ซึ่งก็เป็นมหาวิทยาลัยที่โด่งดังมากแห่งหนึ่งของเมืองลุงแซมอีกด้วยก่อนจะไปจบปริญญาเอกที่ มหาวิทยาลัยบริสโตล ของอังกฤษ

ดูจากคุณสมบัติด้านการศึกษาแล้วก็ต้องยอมรับว่า ดร.ฮุน มาเนต น่าจะเก่งมากทีเดียวและจบนอกทั้งดุ้น จากมหาวิทยาลัยดังๆถึง 2 ประเทศ แบบนี้ความรู้ความสามารถคงไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน

รวมไปถึงบรรดารัฐมนตรีใหม่ๆ ลูกรัฐมนตรีเก่าก็ล้วนจบจากมหาวิทยาลัยดีๆเมืองนอกทั้งสิ้น...หากเราลืมเรื่องการสืบทอดอำนาจต่างๆไปเสียก่อนละก็จะต้องยอมรับว่ารัฐบาลใหม่กัมพูชาชุดนี้มีคุณภาพ ในระดับคับแก้วอยู่หลายคนทีเดียว

ของเราผมไม่ทราบว่า คุณเศรษฐา ทวีสิน จะผ่านการรับรองของรัฐสภาหรือไม่?

เฉพาะตัวคุณเศรษฐาเองถือว่ามีสรรพคุณไม่แพ้นายกฯ ฮุน มาเนต เพราะจบตรีด้านเศรษฐศาสตร์จาก University of Massachusetts และจบโทด้านบริหารธุรกิจการเงินจาก Claremont Graduate School มหาวิทยาลัยเอกชนที่ดังไม่เบาแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ

แต่รัฐมนตรีอื่นๆของรัฐบาลใหม่เราผมไม่ค่อยแน่ใจเพราะส่วนใหญ่คงจะมาจากนักการเมือง ซึ่งจะเก่งไปอีกแบบหนึ่ง เพียงแต่ถ้าไปนั่งประชุมกับเขาคงจะฟุตฟิตฟอไฟสู้ทางกัมพูชาไม่ได้เท่านั้น

ไม่ว่าคุณเศรษฐาจะสอบผ่านหรือไม่ผ่านก็ตาม ผมก็ฝากรัฐบาลใหม่ของไทยเราเอาไว้ว่าต่อไปเราจะประมาทเพื่อนบ้านเรามิได้เด็ดขาด เพราะไม่ว่าเขาจะมาจากระบบไหนก็ตามจะเผด็จการหรือจะเป็นพวกพ้องก็ตามเราต้องยอมรับว่าการเตรียมตัวสร้างคนรุ่นใหม่ของเขาเป็นไปอย่างถูกทาง ถูกต้อง และน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง

เนื่องในโอกาสที่ทั้ง 2 ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงมีวันฤกษ์ดีตรงกันคือ 22 สิงหาคมเช่นนี้ ผมก็ขอถือโอกาสบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ควบคู่กันไป

แต่ก็ต้องขออภัยท่านผู้อ่านล่วงหน้าเอาไว้ว่า สำหรับกัมพูชาน่าจะ “ฤกษ์ดี” แน่ๆ เพราะทุกอย่างเขาลงตัวแล้วได้นายกฯได้รัฐมนตรีแล้วในขณะที่ของเรายังต้องลุ้นไม่แน่ว่าอังคาร 22 ส.ค. คุณเศรษฐา จะผ่านหรือไม่ผ่านอย่างไร?

แถม 22 สิงหาคมยังเป็นวันที่คุณทักษิณ ชินวัตร ตัดสินใจกลับบ้านหลังจากไปเดินทางรอบโลกเสีย 14-15 ปี จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้...

ถ้าเหตุการณ์กลายเป็นว่า “22 ส.ค.” ดีเฉพาะของกัมพูชาแต่ของเรา “วุ่นวาย” ไปหมดก็ขอให้ลืมข้อเขียนวันนี้ไปเสียก็แล้วกันครับ.

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม