• แม้ว่าข้อบังคับในการสวมหน้ากากจะถูกยกเลิกไปนานแล้ว แต่วัยรุ่นและคนยุคใหม่ในเกาหลีใต้ยังคงไม่ยอมเลิกสวมหน้ากาก โดยสาเหตุหลักไม่ใช่เพราะการป้องกันโรคเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นเหตุผลของความไม่มั่นใจที่จะเปิดเผยใบหน้าทั้งหมดต่อสาธารณะ
  • จากการสำรวจความเห็นพบว่าวัยรุ่นหลายคนระบุว่า การถอดหน้ากากออกทำให้เกิดความไม่มั่นใจ และรู้สึกไม่ปลอดภัย นอกจากนี้บางคนยังมองว่าตัวเองดูดีกว่าหากปิดครึ่งของใบหน้าไว้ด้วยหน้ากาก
  • นักจิตวิทยาระบุว่าการปิดบังใบหน้าบางส่วนไว้จะเปิดทางให้ผู้ที่มองเห็นสามารถจินตนาการถึงส่วนที่เหลือของใบหน้าได้ ซึ่งจินตนาการส่วนใหญ่มักดูดีกว่าความเป็นจริง จึงไม่น่าแปลกใจหากเด็กวัยรุ่นจะรู้สึกว่าการถอดหน้ากากเหมือนกับการเปลือยเปล่าต่อหน้าผู้คน

ตอนนี้เกือบทุกประเทศทั่วโลกต่างก็ยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัย โดยเปลี่ยนให้เป็นการสวมหน้ากากตามความสมัครใจกันเกือบทั้งหมดแล้ว โดยเกาหลีใต้ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ยกเลิกข้อบังคับให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาไปนานกว่า 6 เดือนแล้ว แต่กลับพบว่า เยาวชนชาวเกาหลีใต้ หรือกลุ่มคนอายุยังน้อย กลับปฏิเสธที่จะถอดหน้ากากออก ไม่ใช่เพียงเพราะเหตุผลด้านสุขภาพเท่านั้น แต่เหตุผลหลักกลับเกี่ยวกับความไม่มั่นใจที่จะเปิดเผยใบหน้าทั้งหมด และมีความรู้สึกว่าการสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าครึ่งหน้านั้นทำให้พวกเขาดูดีในสายตาคนอื่นมากกว่า

...

มิน คยอง แช นักเรียนหญิงวัย 13 ปี ให้สัมภาษณ์กับเดอะ โคเรีย เฮรัลด์ ว่า เธอรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัย เวลาที่เธอต้องถอดหน้ากากออก เธอรู้สึกว่าเธอดูสวยกว่าเมื่อสวมหน้ากากเอาไว้ โดยในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 วัยรุ่นเกาหลีใต้มักจะมีการล้อเลียนกันว่าการสวมหน้ากากเป็นเหมือนสิ่งที่หลอกลวง เพราะใบหน้าที่อยู่หลังหน้ากากไม่ได้ดูดีเหมือนกับที่ใครๆ คิด

ศาสตราจารย์ ควัก คึม จู แห่งภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ระบุว่า ผู้คนมักจะมีแนวโน้มที่จะจินตนาการถึงบางสิ่งบางอย่างดีกว่าความเป็นจริงเมื่อมันถูกปิดบังเอาไว้ และนับตั้งแต่เด็กๆ เริ่มคุ้นชินกับการสวมหน้ากากในช่วงการระบาดของโควิด-19 ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จึงทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจมากกว่าเมื่อได้สวมหน้ากากเอาไว้ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไมเด็กนักเรียนส่วนใหญ่รู้สึกเหมือนตัวเองเปลือยเปล่าเมื่อไม่ได้สวมหน้ากาก โดยเฉพาะเด็กที่เพิ่งได้เริ่มเข้าเรียนในช่วงที่ต้องสวมหน้ากาก มันคงยากมากและเขินอายที่จะต้องเริ่มถอดหน้ากากให้ทุกคนได้เห็น

นางยู ครูโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ เล่าว่า ในห้องเรียนของเธอซึ่งมีเด็กนักเรียนราว 23 คน ยังคงมีเด็กอีกอย่างน้อย 9 คนที่ไม่ยอมถอดหน้ากากออกเวลามาเข้าเรียน

ขณะที่มีโพสต์ข้อความของผู้ปกครองรายหนึ่งที่โพสต์ระบายความในใจทางออนไลน์ เกี่ยวกับปัญหาเรื่องการถอดหน้ากากของลูกสาวของเธอ โดยเล่าว่าคุณครูมาแจ้งว่าลูกสาวเอาแต่ร้องไห้หน้าชั้นเรียน เพราะเธอไม่อยากถอดหน้ากากเพื่อจะพรีเซ็นต์ผลงานหน้าห้อง โดยลูกสาวของเธอเป็นคนขี้อายและขาดความมั่นใจ และเล่าว่าถ้าเธอถอดหน้ากากออกอาจจะทำให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนตัดสินเธอได้

ศาสตราจารย์ ลิม เมียง โฮ ภาควิชาจิตวิทยาและจิตวิทยาบำบัด มหาวิทยาลัยดันกุก ระบุว่า เด็กๆ อาจจะมีแนวโน้มที่จะสับสนเกี่ยวกับตัวตนของพวกเขา และอาจจะขาดความมั่นใจเพราะการสวมหน้ากากได้เช่นกัน

ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือพ่อแม่ผู้ปกครองควรจะต้องสื่อสารกับลูกๆ มากขึ้น หากพบว่าลูกมีปัญหาในการใช้ชีวิตแบบถอดหน้ากากออก โดยต้องให้เวลาในการปรับตัว เพื่อให้พวกเขาคุ้นชินกับการถอดหน้ากากออก และช่วยเพิ่มความมั่นใจต่อรูปลักษณ์ของตัวเอง แต่หากยังไม่เป็นผลก็สามารถปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ช่วยแนะนำแนวทางที่เหมาะสมให้แก่เด็กๆ ต่อไป

...

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่กลุ่มเยาวชนเท่านั้นที่ยังมีแนวโน้มที่จะสวมหน้ากากต่อเนื่องต่อไป เพราะในกลุ่มผู้ใหญ่เอง โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ก็มีแนวโน้มที่จะยังคงสวมหน้ากากต่อไปด้วยความคุ้นชิน โดยเฉพาะผู้หญิงที่รู้สึกสะดวกสบายที่สามารถสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าออกจากบ้าน ที่สำคัญการสวมหน้ากากอนามัยในวัฒนธรรมของชาวเอเชียคือการเคารพสวัสดิภาพของผู้อื่น และรับผิดชอบต่อสังคม ดังนั้นการคุ้นชินกับการสวมหน้ากากก็อาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ากังวลเสมอไป.

...

ติดตามสกู๊ปพิเศษได้ที่ https://www.thairath.co.th/tags/special%20content