ประชาชนชาวสเปนต่างทยอยเข้าคูหาเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 23 ก.ค. เฟ้นหา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 350 ที่นั่ง โดยเป็นการเลือกตั้งที่จัดขึ้นภายในระยะเวลา 2 เดือน หลังนายเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน วัย 51 ปี จากพรรค สังคมนิยมแรงงาน (PSOE) พรรคอุดมการณ์กลาง-ซ้าย (เสรีนิยม) ประกาศเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ให้มีการจัดเลือกตั้งใหม่ในเดือน ก.ค. เพื่อชี้วัดว่ารัฐบาลยังได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอยู่หรือไม่ เนื่องด้วยการเลือกตั้งท้องถิ่นในเดือน พ.ค.ได้สูญเสียเก้าอี้ให้แก่พรรคฝ่ายค้านสายอนุรักษ์นิยม โดยเฉพาะเก้าอี้สภาท้องถิ่นพื้นที่กรุงมาดริด
ทั้งนี้ พรรคการเมืองสเปนที่รวบรวมคะแนนเสียงในสภาได้เกินกึ่งหนึ่ง หรือ 176 เสียง จากทั้งหมด 350 เสียง จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ ท่ามกลางการคาดคะเนว่าพรรคประชาชน (PP) พรรคฝ่ายค้านอุดมการณ์กลาง-ขวา (อนุรักษ์ นิยม) ของนายอัลเบอร์โต นูเนซ เฟโฮ วัย 61 ปี จะมีคะแนนนำมาเป็นอันดับ 1 แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะครองเสียงข้างมากเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ทำให้อาจต้องไป จับขั้วกับพรรคว็อกซ์ (Vox) พรรคอนุรักษ์นิยมขวาจัด และอาจทำให้สเปนได้รัฐบาลที่มีพรรคขวาจัดเข้ามาเกี่ยวข้องในการบริหารประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดยุคสมัยผู้นำเผด็จการ “นายพลฟรังโก” เมื่อปี 2518 ขณะที่พรรครัฐบาลสังคมนิยมแรงงาน ก็คาดหวังว่าจะสามารถจับขั้วกับกลุ่มพรรคการเมืองหัวก้าวหน้าฝ่ายซ้ายเสรีนิยมของนางโยลันดา ดิแอซ รองนายกรัฐมนตรี วัย 52 ปีได้สำเร็จ.