บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ต้องจ่ายเงินจำนวน 18.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่หนุ่มแคลิฟอร์เนีย ที่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากทางบริษัท จากการที่ทำให้เขาเป็นมะเร็งจากการใช้แป้งเด็กของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ในปริมาณมากมาตั้งแต่เด็ก

คณะลูกขุนของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ มีคำตัดสินเมื่อวันอังคารตามเวลาในท้องถิ่น ให้ทางบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ต้องจ่ายเงินค่าเสียหาย จำนวน 18.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 640 ล้านบาทให้แก่ นายอีโมรี เฮอร์นันเดซ วาลาเดซ วัย 24 ปี ชาวแคลิฟอร์เนีย จากคดีที่เขายื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากทางบริษัท เนื่องจากผลิตภัณฑ์แป้งเด็กที่มีแร่ใยหินปนเปื้อน เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นมะเร็งที่บริเวณเนื้อเยื่อรอบหัวใจ โดยการตัดสินคดีนี้นับเป็นคดีแรกของบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่ศาลมีคำตัดสินในช่วงเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา

นายเฮอร์นันเดซ ได้ขึ้นให้การต่อศาลเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยแจงกับทางคณะลูกขุนว่า เขาคงจะหลีกเลี่ยงการใช้แป้งเด็กดังกล่าว หากเขาได้รับการเตือนว่ามันมีแร่ใยหินปนเปื้อนอยู่ด้วย ขณะที่แม่ของนายเฮอร์นันเดซ ขึ้นให้การว่า เธอได้ใช้แป้งจำนวนมากกับลูกชายของเธอ ในช่วงที่เขายังเป็นเด็ก จนทำให้ลูกชายของเธอต้องล้มป่วยดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายอีริค ฮาส รองประธานบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ระบุในแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาล โดยระบุว่า คำตัดสินนี้ขัดแย้งกับผลการประเมินทางวิทยาศาสตร์ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ที่ยืนยันว่าแป้งเด็กของทางบริษัทมีความปลอดภัย โดยไม่มีส่วนผสมของแร่ใยหิน รวมทั้งไม่ได้เป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งด้วย

โดยนอกจากคดีนี้แล้ว ยังมีโจทก์ที่ฟ้องร้องในคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับแร่ใยหินปนเปื้อนในแป้งเด็ก ลักษณะเดียวกันนี้อีกนับพันคดี ที่กำลังอยู่ในการพิจารณาของศาล แต่การต่อสู้คดีจำนวนมากยังคงถูกระงับการพิจารณาไว้ชั่วคราวในระหว่างกระบวนการล้มละลายของบริษัท ยกเว้นคดีของนายเฮอร์นันเดซ ที่ได้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน เนื่องจากศาลพิจารณาแล้วว่า เขาอาจจะมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน

...

ทั้งนี้ การฟ้องร้องคดีส่วนใหญ่ ระบุว่า ผลิตภัณฑ์แป้งเด็กมีการปนเปื้อนแร่ใยหิน จนทำให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งชนิดต่างๆ ขณะที่ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ยังคงยืนยันว่าผลิตภัณฑ์แป้งของเขามีความปลอดภัยและไม่ได้มีแร่ใยหินปนเปื้อน จนทำให้เกิดมะเร็งเนื้อเยื่อแต่อย่างใด.

ที่มา : รอยเตอร์

ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign