ผู้ประกาศข่าว บีบีซีถูกกล่าวหาว่าซื้อภาพลามกจากวัยรุ่น ถูกเผยชื่อออกมาแล้วโดยภรรยาของเขาเอง หลังจากตำรวจระบุว่า ไม่พบหลักฐานการกระทำผิด
เมื่อ 13 ก.ค.2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้ประกาศข่าวของ บีบีซี ซึ่งถูกกล่าวหาว่าซื้อภาพลามกอนาจารจากผู้เยาว์ จนกลายเป็นประเด็นร้อนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ถูกเปิดเผยชื่อออกมาแล้วผ่านแถลงการณ์โดยภรรยาของเขาเองว่า คือนาย ฮิว เอ็ดเวิร์ดส์ และขณะนี้ สามีของเธอกำลังเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาโรคซึมเศร้า
ข้อกล่าวหาของนายเอ็ดเวิร์ดส์มีจุดเริ่มต้นจากรายงานของแท็บลอยด์ เดอะ ซัน เมื่อ 7 ก.ค. ระบุว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งอ้างว่า ผู้ประกาศข่าวของ บีบีซีคนหนึ่ง จ่ายเงินรวมหลายหมื่นปอนด์ เพื่อซื้อภาพลามกจากลูกวัย 20 ปีของเธอมาตลอดระยะเวลา 3 ปี หรือตั้งแต่วัยรุ่นรายนี้มีอายุ 17 ปี
อนึ่ง การได้มาซึ่งรูปลามกอนาจารของผู้เยาว์ อายุต่ำกว่า 18 ปี ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายของสหราชอาณาจักร
เดอะ ซัน ยังเผยแพร่ข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ทำให้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9 ก.ค.) บีบีซี สั่งพักงานผู้ประกาศข่าวที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่ในวันอังคารที่ 11 ก.ค. เดอะ ซัน จะเผยแพร่รายงานอีก 2 ชิ้นซึ่งมีข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ขณะที่บีบีซีก็เผยแพร่รายงานของตัวเองว่า มีคนวัยหนุ่มสาวรายหนึ่งอ้างว่าถูกผู้ประกาศข่าวรายนี้ส่งข้อความข่มขู่
บีบีซียังเปิดเผยลำดับเวลาของเหตุการณ์ ยืนยันว่าข้อกล่าวอ้างดังกล่าวถูกรายงานเป็นครั้งแรกเมื่อ 18 พ.ค. แต่เพิ่งมีการพูดคุยกับผู้ประกาศข่าวที่เกี่ยวข้องใน 7 สัปดาห์ต่อมา
อย่างไรก็ตามวันพุธที่ 12 ก.ค. 2566 ตำรวจเซาท์ เวลส์ ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า พวกเขายังไม่พบหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้น โดยไม่ได้ระบุชื่อของนายเอ็ดเวิร์ดส์ แต่พวกเขาระบุว่า หากมีหลักฐานการกระทำผิดเปิดเผยออกมาในอนาคต พวกเขาจะดำเนินการสืบสวน
...
ในเวลาเดียวกัน นางวิคกี ไฟลด์ ภรรยาของนายเอ็ดเวิร์ดส์ ก็ออกแถลงการณ์ เปิดเผยว่าสามีของเธอคือผู้ประกาศข่าว บีบีซี ที่ถูกกล่าวหา พร้อมระบุว่า สามีของเธอกำลังรับการรักษาอาการป่วยทางจิตใจอย่างรุนแรงในโรงพยาบาล และย้ำว่า เป็นที่รู้กันดีว่าสามีของเธอรับการรักษาอาการซึมเศร้ารุนแรงมาตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
และไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น เดอะ ซัน ก็ออกมาประกาศว่า พวกเขาไม่มีแผนจะเผยแพร่ข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับนายเอ็ดเวิร์ดส์แล้ว และจะให้ความร่วมมือกับกระบวนการสืบสวนเป็นการภายในของ บีบีซี
ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc