ชาติสมาชิกนาโตยอมรับ ต้องเร่งมือเพื่อรับยูเครนเป็นสมาชิก แต่ไม่กำหนดเวลาที่ชัดเจน ด้านเซเลนสกีโวยว่า ทำให้การเข้าร่วมล่าช้าโดยใช่เหตุ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้นำชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต จัดการประชุมสุดยอดขึ้นที่กรุงวิลนิอุส เมืองหลวงของประเทศลิทัวเนีย ในวันอังคารที่ 11 ก.ค. 2566 โดยเรื่องการรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกคือประเด็นหลักที่ทั่วโลกจับตามอง
อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์หลังการประชุม เหล่าผู้นำนาโตยอมรับว่าจำเป็นต้องเคลื่อนไหวให้เร็วขึ้นเรื่องการรับยูเครนเป็นสมาชิก แต่ไม่มีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน และว่า ยูเครนจะเข้าเป็นสมาชิกได้ก็ต่อเมื่อชาติพันธมิตรแห่งชาติและเงื่อนไขต่างๆ ครบสมบูรณ์แล้ว
ด้านนาย โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ซึ่งเดินทางไปยังกรุงวิลนิอุสด้วย ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อท่าทีของนาโตโดยระบุว่า นาโตกำลังทำให้การรับยูเครนเป็นสมาชิกล่าช้าออกไปอย่างไม่มีเหตุผล และว่าการที่ไม่มีการเห็นชอบเรื่องกรอบเวลา หมายความว่าในท้ายที่สุด การเข้าเป็นสมาชิกของยูเครนจะกลายเป็นข้อต่อรอง
“หน้าต่างแห่งโอกาสกำลังถูกทิ้งไป ทำให้เรื่องการเป็นสมาชิกของยูเครนกลายเป็นข้อต่อรองของนาโต ในการเจรจากับรัสเซีย ความไม่แน่นอนคือจุดอ่อน” นายเซเลนสกีระบุผ่านข้อความบนทวิตเตอร์
ทั้งนี้ รัฐบาลยูเครนออกมายอมรับสภาพแล้วว่า พวกเขาไม่สามารถเข้าร่วมนาโตได้ในขณะกำลังทำสงครามกับรัสเซีย แต่พวกเขาต้องการเข้าเป็นสมาชิกโดยเร็วที่สุดหลังสงครามจบลง
เซเลนสกีกล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า ดูเหมือนจะมีความไม่พร้อม ที่จะเชิญยูเครนเข้าสู่นาโต หรือทำให้พวกเขากลายเป็นสมาชิก
แต่ถึงแม้ว่านาโตจะไม่ได้กำหนดกรอบเวลาหรือวิธีการที่ชัดเจนในการรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก แต่นักการทูตของชาตินาโตก็เน้นย้ำว่า พวกเขาได้วางเส้นทางที่ชัดเจนขึ้นไปสู่การเป็นสมาชิก และร่นกระบวนการขอเข้าร่วมอันยากลำบากลงอย่างมีนัยสำคัญ
...
ชาติพันธมิตรยอมรับด้วยว่า กองทัพของยูเครนทำงานร่วมกันและผสมผสานทางการเมืองกับกองกำลังของนาโตได้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยที่นาโตจะสนับสนุนการปฏิรูปประชาธิปไตยและความมั่นคงในยูเครนต่อไป นอกจากนั้น นาโตยังจัดตั้งสภานาโต-ยูเครน ซึ่งให้สิทธิ์ยูเครนเรียกประชุมสุดยอดกับชาติพันธมิตรทั้งหมดได้ด้วย โดยจะมีการประชุมครั้งแรกในวันพุธนี้ (12 ก.ค.)
แต่การไม่กำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนก็ยังถือว่าเสียหายสำหรับยูเครน และตอกย้ำถึงความล้มเหลวทางการทูตของฝ่ายยูเครนและนายเซเลนสกี
ที่มา : bbc