เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สิ้นสุดการเยือนประเทศจีนแล้ว โดยเธอเชื่อว่ามีความคืบหน้าในการฟื้นสัมพันธ์กับจีน และว่าโลกใหญ่พอให้ทั้ง 2 ประเทศประสบความสำเร็จด้วยกัน
สำนีกข่าวต่างประเทศรายงานว่า นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เสร็จสิ้นภารกิจเยือนกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นเวลา 2 วัน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกทั้ง 2 ประเทศแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ก.ค. 2566
นางเยลเลน กล่าวว่า เธอได้พูดคุยอย่างตรงไปตรงมา มีแก่นสารและประสิทธิผล กับผู้นำด้านเศรษฐกิจคนใหม่ของจีน รวมถึง นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรี และนายพาน กงเชิ่ง ผู้อำนวยการธนาคารกลางจีนคนใหม่ และยอมรับว่า “ไม่มีการเยือนครั้งเดียวใดๆ จะสามารถแก้ไขความท้าทายของเราได้ในคืนเดียว แต่ฉันคาดหวังว่าการเยือนครั้งนี้จะช่วยสร้างช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่น”
“หากให้พูดอย่างกว้างๆ ฉันเชื่อว่าการพบปะแบบทวิภาคีของฉัน ซึ่งรวมเวลากว่า 10 ชั่วโมง ตลอดช่วง 2 วัน ทำหน้าที่เป็นการก้าวไปข้างหน้าในความพยายามของเราที่จะนำความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ไปสู่จุดที่แน่นอนยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ นางเยลเลนถือเป็นรัฐมนตรีของสหรัฐฯ คนที่ 2 ที่เยือนกรุงปักกิ่งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
แต่ถึงแม้ว่าจะมีการพูดคุยในระดับสูง สหรัฐฯ ยังคงออกมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อบริษัทของจีน, ผลักดันให้ญี่ปุ่นกับแคนาดาจำกัดการส่งออกชิพเซมิคอนดักเตอร์ให้จีน และปลุกเร้าประเทศเศรษฐกิจอื่นๆ ต่อต้านการขู่กรรโชกทางเศรษฐกิจของจีน อย่างไรก็ตาม นางเยลเลนย้ำว่า สหรัฐฯ ไม่ได้หาทางเลิกคบกับจีน และว่าการทำเช่นนั้นจะเป็นหายนะต่อทั้ง 2 ฝ่าย และต่อโลก
...
เยลเลน กล่าวภายหลังอีกว่า สหรัฐฯ กับจีนมีความเห็นไม่ตรงกันอย่างมีนัยสำคัญ ที่จำเป็นต้องมีการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาและชัดเจน แต่รัฐบาลไบเดนไม่ได้มองความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศถึงขั้นเป็นความขัดแย้งของชาติมหาอำนาจ “เราเชื่อว่าโลกนี้ใหญ่พอให้ทั้ง 2 ประเทศเจริญรุ่งเรือง ทั้ง 2 ประเทศมีพันธสัญญาในการบริหารความสัมพันธ์นี้อย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อหาทางใช้ชีวิตร่วมกัน และมีส่วนรวมในการเจริญรุ่งเรืองของโลก”
ที่มา : cnn