‘เอ็มมานูแอล ฌ็อง-มีแชล เฟรเดริก มาครง’ อายุ 39 ปี ชนะการเลือกตั้งและได้เป็นประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศสเมื่อ 14 พฤษภาคม 2017 คนฝรั่งเศสในตอนนั้นแฮปปี้มีความสุขมากที่ได้ประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ถือเป็นประมุขแห่งฝรั่งเศสที่มีอายุน้อยที่สุดนับตั้งแต่สมัยจักรพรรดินโปเลียน มาครงได้รับความไว้วางใจจากคนฝรั่งเศสให้เป็นประธานาธิบดีต่อวาระที่ 2 เมื่อ 14 พฤษภาคม 2022 นับจนถึงตอนที่ผมเขียนคอลัมน์รับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพอยู่ในขณะนี้ มาครง เป็นผู้นำฝรั่งเศสมาแล้ว 6 ปีกว่า
มีเป้าหมายใหญ่โตมโหฬารบานเบอะเยอะแยะของมาครงก็คือ ต้องการนำพาฝรั่งเศสให้กลับมาเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ แกจึงหนุนอำนาจอธิปไตยและความเป็นอิสระของยุโรปในด้านเศรษฐกิจ พลังงานและการป้องกันประเทศ ทว่าฝีไม้ลายมือในการบริหารประเทศของมาครงยังไม่ถึงขั้น จึงทำให้เงินที่จะใช้จ่ายในประเทศมีไม่พอ ไม่มีเงินเพียงพอให้รับแรงงานรับบำนาญที่อายุ 62 ปีเหมือนเดิม มาครงจึงให้เลื่อนให้ไปเกษียณที่อายุ 64 ปี แถมกำหนดให้แรงงานต้องทำงานมาแล้วอย่างน้อย 43 ปี ทำให้ประชาชนโกรธมาครงมาก
ฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งการประท้วง ผู้อ่านท่านยังจำขบวนการเสื้อกั๊กเหลืองได้ไหมครับ พวกเสื้อกั๊กเหลืองประท้วงมาครงตั้งแต่ปลายปี 2018 ต่อไปจนถึงปี 2019 ก่อนหน้านั้นก็มีการประท้วงต่อต้านการขึ้นภาษีน้ำมันที่มาครงตั้งขึ้นเพื่อลดการปล่อยมลพิษ และต่อต้านนโยบายเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่สูงลิ่ว
แม้ว่าจะชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 แต่คะแนนนิยมของมาครงกลับตกต่ำย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ตามด้วยการหยุดงานประท้วง ฝรั่งเศสเละเทะถึงขนาดผู้คนแขยงแขงขนที่จะไปเที่ยวฝรั่งเศส คนไทยสัญชาติฝรั่งเศสที่ผมรู้จักถึงกับเอ่ยปากว่า อ้า ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ไม่น่าจะมาลงหลักปักฐานหรือมาทำงาน หรือแม้แต่จะมาเที่ยว อีกต่อไปแล้ว
...
ท่านที่จะเยือนฝรั่งเศสต้องเตรียมใจรับกับระบบขนส่งสาธารณะที่สามวันดี สี่วันหยุด ทั้งรถบัส รถราง รถไฟ แม้กระทั่งเครื่องบิน ถึงขนาดมีการเตือนให้คนที่จะเดินทางว่าอย่าเพิ่งเช็กเอาต์จากที่พักจนกว่าจะมีการยืนยันว่าได้เดินทางแน่นอน ส่วนนักท่องเที่ยวต้องเผื่อเวลาไว้สำหรับการเดินทางในเมืองใหญ่ของฝรั่งเศสอีกด้วย
การจลาจลพร้อมการปล้นเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมา ชาวฝรั่งเศสลุกฮือเพื่อต่อต้านความโหดร้ายของตำรวจและการเลือกปฏิบัติต่อชุมชนชายขอบ ถือเป็นการจลาจลครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่มาครงขึ้นมาเป็นผู้นำฝรั่งเศส การจลาจลครั้งนี้นำความย่อยยับโชคมาสู่สาธารณรัฐฝรั่งเศสและมาครงมากที่สุด
ต้น ค.ศ.2023 มาครงต้องยกเลิกการต้อนรับการเสด็จเยือน ฝรั่งเศสของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร เดือน กรกฎาคม 2023 มาครงก็ต้องขอเลื่อนการเยือนของผู้นำเยอรมนี จากการลุกฮือของผู้คนทำให้มาครงไม่กล้าต้อนรับอาคันตุกะ และต้องสั่งห้ามการจัดงานขนาดใหญ่ในฝรั่งเศสอย่างเด็ดขาด
แค่แก้ปัญหาการประท้วงในประเทศ มาครงก็แทบจะไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นแล้วครับ แกเมาหมัดและเริ่มโทษมีดพกกระจกเงากระเป๋าหิ้วแว่นตานาฬิกาฟันปลอมเมื่อไม่มีอะไรให้แกโยนความผิดให้แล้ว มาครงก็หันมาโทษสื่อสังคมออนไลน์ว่าเป็นตัวยั่วยุทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น มาครงชี้นิ้วสั่งให้คณะรัฐมนตรีเรียกตัวแทนของติ๊กต่อกและสแนปแชตมาพบ สั่งให้สื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลายกลั่นกรองเนื้อหาและลบโพสต์ที่อาจปั่นความรุนแรง มาครงพูดกับนายกเทศมนตรี 250 คนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความรุนแรงเมื่อเร็วๆนี้ว่า “เมื่อสิ่งต่างๆ หลุดจากการควบคุม เราจำเป็นต้องวางระเบียบควบคุมมันหรือตัดมันออก”
สมัยก่อนตอนขึ้นมาเป็นผู้นำใหม่ๆ มาครงตะโกนก้องร้องวิจารณ์ผู้นำประเทศโน้นชาตินี้ว่า อ้า พวกคุณเป็นเผด็จการ เพราะจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการเข้าถึงสื่อ เป็นผู้นำฝรั่งเศสได้เพียง 6 ปี คราวนี้ มาครงเป็นไอ้เผด็จการซะเอง.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com