• ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แอฟริกาใต้ตกอยู่ในวิกฤติพลังงานครั้งร้ายแรงที่สุด ทางการจำเป็นต้องตัดไฟฟ้าเป็นระยะๆ เพื่อช่วยให้ระบบไฟฟ้าที่ผลิตด้วยถ่านหินของประเทศสามารถอยู่รอดท่ามกลางความต้องการที่ล้นหลาม แต่นี่กลับทำให้สถานการณ์เลวร้ายอย่างต่อเนื่อง และยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้แอฟริกาใต้กำลังเผชิญปัญหาใหม่ นั่นก็คือการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค
  • น้ำประปาในประเทศส่วนใหญ่ของแอฟริกาใต้ใช้ไฟฟ้าในการสูบน้ำจากแหล่งกำเนิดไปยังที่ราบสูงอันกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองโจฮันเนสเบิร์กและพริทอเรีย โดยปัญหาไฟฟ้าดับต่อเนื่องในแอฟริกาใต้เมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้ต้องมีการกำหนดการเปิดปิดไฟฟ้า ได้ส่งผลกระทบต่อระบบผลิตน้ำประปา
  • การขุดเจาะบ่อบาดาลส่วนตัวเป็นเพียงทางเลือกสำหรับผู้ที่มีฐานะร่ำรวย เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 238,000 บาท ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในแอฟริกาใต้

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แอฟริกาใต้ตกอยู่ในวิกฤติพลังงานครั้งร้ายแรงที่สุด ทางการจำเป็นต้องตัดไฟฟ้าเป็นระยะๆ เพื่อช่วยให้ระบบไฟฟ้าที่ผลิตด้วยถ่านหินของประเทศสามารถอยู่รอดท่ามกลางความต้องการที่ล้นหลาม แต่นี่กลับทำให้สถานการณ์เลวร้ายอย่างต่อเนื่อง และยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้แอฟริกาใต้กำลังเผชิญปัญหาใหม่ นั่นก็คือการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค

ในย่านการ์สฟอนไทน์ ใกล้กรุงพริทอเรีย ความสงบของถนนชานเมือง กำลังถูกทำลายด้วยเสียงขุดเจาะ เพื่อขุดหาทรัพยากรที่มีค่ามากกว่าแร่ธาตุใดๆ ซึ่งก็คือน้ำ และการขุดบ่อน้ำบาดาลในลักษณะนี้ กำลังผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดในศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งประชาชนกำลังเผชิญปัญหาน้ำประปาไม่ไหล

...

เจ้าของบ้านรายหนึ่งบอกว่า "ฉันเบื่อที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรเราจะมีน้ำใช้ และเมื่อไรที่น้ำจะไม่ไหล การมีบ่อบาดาลหมายความว่าเราไม่ต้องพึ่งพารัฐบาลมากนัก นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวของฉัน"

น้ำประปาในประเทศส่วนใหญ่ของแอฟริกาใต้ใช้ไฟฟ้าในการสูบน้ำจากแหล่งกำเนิดไปยังที่ราบสูงอันกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองโจฮันเนสเบิร์กและพริทอเรีย โดยปัญหาไฟฟ้าดับต่อเนื่องในแอฟริกาใต้เมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้ต้องมีการกำหนดการเปิดปิดไฟฟ้า ได้ส่งผลกระทบต่อระบบผลิตน้ำประปา

ซิโป โมไซ ผู้อำนวยการบริษัท "แรนด์ วอเอตร์" บริษัทผู้ผลิตน้ำของรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการน้ำประปาหลักของประเทศกล่าวว่า "สถานีทั้งหมดของเราต้องการไฟฟ้า พวกเขาต้องการพลังงาน เราจำเป็นต้องสูบน้ำจากทุกที่ที่จำเป็น ไฟฟ้าเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตน้ำ และถ้าเราไม่มีไฟฟ้าจากภายนอก อย่างน้อยก็ในตอนนี้ มันก็จะกลายเป็นปัญหา"

ซิซี ดลังกา ประชาชนรายหนึ่งกล่าวว่า "บางวันฉันไม่มีทั้งน้ำและไฟฟ้า และอาจนานเป็นวันต่อครั้ง มันทำให้ชีวิตประจำวันยากลำบาก" เธออาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ 2 ห้องนอน ในย่านชานเมืองอันมั่งคั่งทางตอนเหนือของเมืองโจฮันเนสเบิร์กกับพี่สาวของเธอ ตอนนี้เธอต้องตุนน้ำเมื่อน้ำไหล และไปยิมเพื่ออาบน้ำ

เธอบอกว่า "ค่าน้ำประปาของฉันยังคงเท่าเดิม แม้ว่าจะมีการตัดไฟทั้งหมดแล้วก็ตาม ฉันรู้สึกหงุดหงิด ฉันไม่สามารถเข้าถึงทางเลือกอื่น เช่น บ่อน้ำบาดาล ทำให้ฉันต้องรับภาระนี้"

แน่นอนว่ามีชาวแอฟริกาใต้หลายล้านคนที่อาศัยอยู่โดยไม่มีน้ำประปาใช้มานานหลายปี แต่อุปทานในประเทศที่ไม่ต่อเนื่อง เป็นเพียงแง่มุมหนึ่งของปัญหาหลายด้านที่อุตสาหกรรมน้ำต้องเผชิญ

ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า การขาดแคลนไฟฟ้าทำให้ปัญหารุนแรงขึ้นจากโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการบำรุงรักษาไม่ดี ซึ่งนำไปสู่ปัญหาน้ำประปารั่วไหลจำนวนมาก ที่รวมถึงปัญหาน้ำเสีย และน้ำประปาที่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้

น้ำที่ผ่านการบำบัด สะอาด และดื่มได้ ปริมาณกว่า 70 ล้านลิตรในแต่ละวันสูญเสียไป เนื่องจากการรั่วไหลซึ่งเกิดขึ้นจากระบบการแจกจ่ายน้ำที่พังเสียหาย การสูญเสียน้ำส่วนใหญ่ที่สามารถระบุได้ มักเชื่อมโยงกับเทศบาลต่างๆ ที่ขาดการดูแลรักษาและขาดการใช้งบประมาณในการบำรุงรักษา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการทุจริตและการโจรกรรม ซึ่งหมายความว่าโรงงานบำบัดน้ำเสียไม่ได้ทำการบำบัดน้ำอย่างที่ควรจะเป็น และสิ่งนี้มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ ในเมืองฮัมมานสกราล นอกกรุงพริทอเรีย มีคนเสียชีวิต 29 ศพ จากอหิวาตกโรคซึ่งพบในแหล่งน้ำที่นั่น การระบาดของโรคนี้เชื่อมโยงกับแนวทางปฏิบัติในการทำน้ำให้บริสุทธิ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

ปัญหานี้ได้ส่งผลให้เกิดธุรกิจการจำหน่ายน้ำดื่มบรรจุขวดที่ริมถนนในเมือง ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่เกิดในยุคแห่งความสิ้นหวัง พ่อค้าน้ำดื่มรายหนึ่งกล่าวว่า "คนส่วนใหญ่ซื้อจากผม เพราะต้องการน้ำดื่มที่ปลอดภัย เพราะน้ำที่ออกจากก๊อกสกปรก"

ขณะที่บ้านเขาใช้วิธีเก็บน้ำฝนแล้วนำมาต้มก่อนใช้ "หลายคนที่ป่วยก็เพราะน้ำที่ไหลออกจากก๊อก และบางคนก็ไม่รู้วิธีทำความสะอาด เรามีเด็กเล็กในชุมชนนี้ ผมกังวลมากเกี่ยวกับความปลอดภัยของเรา"

...

รายงานล่าสุดโดยแผนกกิจการน้ำและสุขอนามัยพบว่า จากระบบบำบัด 155 ตัวอย่าง พบว่า 41% มีคุณภาพทางจุลชีววิทยาของน้ำบริโภคต่ำกว่ามาตรฐาน

ที่เมืองมาคันดา ในจังหวัดอีสเทิร์น เคป ประชาชนจำเป็นต้องบริโภคน้ำดื่มที่ไม่ปลอดภัยมาเป็นเวลานานหลายปี รวมถึงการปนเปื้อนของเชื้ออีโคไล ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนในจังหวัดฟรีสเตท ผลการสืบสวนของรัฐบาลพบว่าโรงบำบัดน้ำเสียส่วนใหญ่ถือว่า "อยู่ในสภาพวิกฤติ" ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความเสี่ยงต่อน้ำปนเปื้อน

ในส่วนของบริษัทผู้ผลิตน้ำประปานั้น นายโมไซ ผู้อำนวยการบริษัท "แรนด์ วอเอตร์" ยอมรับว่าจำเป็นต้องมีการดำเนินการมากกว่านี้ เขากล่าวว่า บริษัทของเขากำลังลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์มากกว่าที่จะพึ่งพาระบบการจ่ายไฟฟ้าของประเทศ

เมื่อพูดถึงวิธีแก้ปัญหา การขุดเจาะบ่อบาดาลส่วนตัวเป็นเพียงทางเลือกสำหรับผู้ที่มีฐานะร่ำรวย เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 238,000 บาท ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในแอฟริกาใต้

ดร.เฟอร์เรียล อดัม จากกลุ่มผู้สนับสนุนด้านการใช้น้ำ "WaterCAN" กล่าวว่า "สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ช่องว่างที่ขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างคนที่มีกับคนที่ไม่มี มันสร้างความอยุติธรรมในสังคม" 

นอกจากนี้ ยังเกิดคำถามเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการขุดบ่อบาดาลและคุณภาพของน้ำใต้ดิน ว่าปลอดภัยที่จะดื่มหรือไม่ ในบางพื้นที่ของประเทศ อาจพบโลหะที่เป็นอันตรายและแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในน้ำได้

แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มีบางสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อประโยชน์ของทุกคนและช่วยยับยั้งการเสื่อมสภาพของน้ำประปา

ดร.อดัม กล่าวว่า "มีวิธีแก้ไขที่รวดเร็วมาก หนึ่งคือแก้ไขการรั่วไหลของน้ำ ด้วยการทุ่มงบประมาณไปกับโครงสร้างพื้นฐานและการบำรุงรักษา และทดสอบคุณภาพน้ำอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น คุณจึงต้องคอยติดตามดูว่าผู้คนดื่มอะไร" และเสริมว่า รัฐบาลแห่งชาติจำเป็นต้องจัดระเบียบให้เทศบาลทั่วประเทศดำเนินแนวทางปฏิบัติในแนวเดียวกัน

...

รัฐบาลรับทราบปัญหาดังกล่าว และกล่าวว่า ได้ดำเนินการฟ้องเทศบาลบางแห่งต่อศาล จากข้อกล่าวหาเรื่องความประมาทเลินเล่อ แต่ ดร.อดัมรู้สึกว่านั่นยังไม่เพียงพอ

"หลายเรื่องตกอยู่ในสภาพล้มเหลว ความล้มเหลวนั้นทำให้ชีวิตประชาชนตกอยู่ในความเสี่ยง".