นักการเมืองอเมริกัน ไม่ขี้เกียจสันหลังยาวเหมือน นักการเมืองไทย รับเงินเดือนจากภาษีประชาชนแล้วก็ทำงานเต็มที่ ไม่โดดร่มจนสภาล่มซ้ำซาก ทำให้เศรษฐกิจของชาติเสียหายอย่างไม่รับผิดชอบ สภาคองเกรสสหรัฐฯ ใช้เวลาหามรุ่งหามค่ำเจรจาต่อรองจนผ่าน กฎหมายเพดานหนี้ หรือ พ.ร.บ.ความรับผิดชอบทางการคลัง (Fiscal Responsibility Act) ออกมาเรียบร้อยแล้ว สภาผู้แทนฯได้ลงมติเห็นชอบ 314 ต่อ 117 เสียง ในวันพุธที่ 31 พ.ค. วุฒิสภาลงมติเห็นชอบ 63 ต่อ 36 เสียง ในวันพฤหัสบดีที่ 1 มิ.ย. ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯลงนามใช้เป็นกฎหมายเมื่อวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน ก่อนถึง เส้นตายวันจันทร์ที่ 5 มิถุนายนนี้ มิฉะนั้น รัฐบาลสหรัฐฯอาจต้องผิดนัดชำระหนี้กว่า 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ประมาณ 1,099 ล้านล้านบาท เศรษฐกิจมะกันและเศรษฐกิจโลกจะพังกันระเนนระนาด

ถ้า กฎหมายเพดานหนี้ ไม่ผ่านการเห็นชอบจากสภาคองเกรส สหรัฐฯจะไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนข้าราชการหลายล้านคน ไม่มีเงินจ่ายทหารที่ประจำการอยู่ทั่วโลก และ ไม่มีเงินจ่ายค่าดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯกว่า 100 ล้านล้านดอลลาร์ ที่อยู่ในตลาดทั่วโลกด้วย

กฎหมายเพดานหนี้ฉบับใหม่ ให้ระงับการจำกัดเพดานหนี้ไปจนถึงปี 2568 หมายความว่าสองปีนี้ รัฐบาล ประธานาธิบดี โจ ไบเดน สามารถกู้เงินมาใช้จ่ายได้ไม่จำกัดตามเงื่อนไขที่มีการเจรจาตกลงกันระหว่าง ประธานาธิบดีไบเดน กับ นายเควิน แมคคาร์นี

ประธานสภาผู้แทนฯ จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับ ประธานาธิบดีไบเดน ที่มาจากพรรคเดโมแครต ไปจนถึงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปลายปี 2567 ซึ่ง นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดี วัย 80 ปี จะยักแย่ยักยันลงสมัครชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯอีกสมัย เพื่อไม่ให้เรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องงบประมาณ

...

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มี พรรครีพับลิกัน ครองเสียงข้างมาก มี นายเควิน แมคคาร์นี จากพรรครีพับลิกันเป็นประธานสภา เป็นพรรคคู่แข่งกับ พรรคเดโมแครต ดังนั้น ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต จึงต้องเจรจากับ นายแมคคาร์นี เพื่อ ขอเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกันให้ลงมติเห็นชอบด้วย ถ้า ส.ส.รีพับลิกันไม่โหวตให้กฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ก็ไม่ผ่านสภาผู้แทนฯแน่นอน ส่วน วุฒิสภา ไม่มีปัญหาพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากอยู่แล้ว

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงขอบคุณหลังจากที่วุฒิสภาลงมติผ่านกฎหมายเพดานหนี้ โดยกล่าวชื่นชม นายเควิน แมคคาร์นี ประธานสภาผู้แทนฯพรรครีพับลิกัน นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำวุฒิสภาพรรครีพับลิกัน และ ส.ส.พรรครีพับลิกัน ว่า ได้แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศมาก่อนการเมือง ทั้งนี้ ประธานาธิบดี ไบเดน ยอมรับว่า ทั้ง พรรคเดโมแครต และ พรรครีพับลิกัน ไม่ได้พอใจกับผลการเจรจาที่ออกมาอย่างเต็มที่ ไม่มีใครได้ทุกอย่างที่ต้องการในการเจรจาครั้งนี้ แต่ข้อตกลงร่วมของสองพรรคนี้ คือชัยชนะครั้งใหญ่ของเศรษฐกิจเราและของชาวอเมริกัน

ผมนำเรื่อง กฎหมายเพดานหนี้สหรัฐฯ มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้คนไทยเห็นว่า นักการเมืองสหรัฐฯแม้จะต่อสู้กันเข้มข้นขนาดไหน แต่เมื่อ ต้องเลือก ระหว่าง ผลประโยชน์ของชาติ กับ ผลประโยชน์ทางการเมือง แล้ว นักการเมืองอเมริกันเลือกผลประโยชน์ของชาติมาก่อน ไม่เหมือน นักการเมืองไทย ที่ เลือกผลประโยชน์ส่วนตัว เลือกบุญคุณส่วนตัวมาก่อน โดย ไม่สนใจต่อความเสียหายของชาติ ทั้งที่บอกว่ารักชาติ แต่กลับรักผลประโยชน์ตัวเองมากกว่า

การเมืองแบบไทยๆ เราจึงได้เห็น แพ้เลือกตั้งกว่า 10 ล้านเสียง แต่กลับไม่เคารพเสียงของประชาชน และ ไม่มีสปิริตทางการเมือง ไม่แสดงความยินดีและไม่สนับสนุนผู้ชนะ แต่กลับหาวิธีสารพัดเพื่อสกัดดาวรุ่ง หวังจะมี “ส้มหล่น” โดยไม่เคารพกติกา.

“ลม เปลี่ยนทิศ”