หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดผู้นำชาติการเมืองโลก 7 ประเทศหรือจี 7 ที่กลุ่มชาติตะวันตกนำโดยสหรัฐฯ ได้แสดงจุดยืนร่วมกันในเรื่องการต่อต้านรัสเซียและรับมือการขยายอิทธิพลของจีนนั้น สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ประเทศปาปัวนิวกินี หมู่เกาะทางตะวันออกของอินโดนีเซีย และทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ส่อเค้าจะกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศ ที่อยู่ภายใต้ร่มเงาทางความมั่นคงของสหรัฐฯ หลังตัวแทนสหรัฐฯและปาปัวนิวกินี ได้ร่วมกันลงนามข้อตกลงทางความมั่นคงครั้งสำคัญ

ทั้งนี้ นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ลงนามข้อตกลงทางความมั่นคงร่วมกับนายวิน บาครี ดากี รมว.กลาโหมปาปัวนิวกินี ซึ่งกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯเผยรายละเอียดว่า รัฐบาลสหรัฐฯจะใช้งบประมาณเบื้องต้น 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1,530 ล้านบาท ในการจัดหาอุปกรณ์ให้แก่กองทัพปาปัวนิวกินี และจะช่วยเหลือปาปัวนิวกินีในการรับมือสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง อาชญากรรมข้ามชาติ และปัญหาโรคเอดส์

อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆในปาปัวนิวกินี จัดชุมนุมประท้วงการลงนามข้อตกลง เนื่องด้วยกังวลว่าจะทำให้มีปัญหากับจีนในอนาคต อีกทั้งในเอกสารข้อตกลงความมั่นคงฉบับร่าง ยังมีรายละเอียดด้วยว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและพนักงานอัตราจ้างของสหรัฐฯจะได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองทางกฎหมาย เครื่องบิน รถยนต์ และเรือของสหรัฐฯหรือทำหน้าที่ในนามรัฐบาลสหรัฐฯ จะสามารถสัญจรในดินแดนและน่านน้ำปาปัวนิวกินีได้อย่างเสรี เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯจะได้รับการยกเว้นเรื่องตรวจคนเข้าเมือง

กระนั้น นายเจมส์ มาราเป นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ ความร่วมมือกับสหรัฐฯจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของประเทศ ขอปฏิเสธข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯจะได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง อีกทั้งการลงนามข้อตกลงกับสหรัฐฯก็มิได้หมายความว่า เราจะไปลงนามข้อตกลงที่คล้ายๆกันกับชาติอื่นๆหรือจีนไม่ได้ เรามีอิสระที่จะร่วมมือทางความมั่นคงกับใครก็ได้ที่มีหลักการและยึดถือคุณค่าแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนทางตะวันออกหรือตะวันตก รวมถึงเพื่อนเก่าแก่อย่างออสเตรเลีย สหรัฐฯ หรือกระทั่งจีน

...

นอกจากนี้ ข้อตกลงกับสหรัฐฯ จะเพิ่มความสามารถของกองทัพปาปัวนิวกินี ให้รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในน่านน้ำของเรา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่ปี 2518 ส่วนนายบลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมาทำหน้าที่แทนนายโจ ไบเดน ประธานา ธิบดีสหรัฐฯที่ต้องรีบบินกลับประเทศไปเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ กล่าวว่า ข้อตกลงจะทำให้กองทัพฝึกฝนร่วมกันง่ายขึ้น และทุกอย่างจะมีความโปร่งใส.