- เมืองจือปั่วเป็นเมืองเล็กๆ ในมณฑลซานตง มีประชากรประมาณ 4.7 ล้านคน กลายเป็นเมืองที่โด่งดังในพริบตา จากการที่มีผู้โพสต์ภาพการกินบาร์บีคิวจือปั่ว แล้วแชร์ต่อๆ กัน จนกลายเป็นกระแสไวรัลให้คนอยากเดินทางมาเมืองนี้อย่างถล่มทลาย
- "อาหารปิ้งย่าง" เป็นอาหารโปรดของชาวจีน แต่บาร์บีคิวที่เมืองจือปั่วมีความแตกต่างจากที่อื่นตรงที่ที่นี่จะกินบาร์บีคิวกับแผ่นแป้ง ต้นหอม และน้ำจิ้ม
- ตัวเลขจีดีพีของเมืองจือปั่วในปีที่แล้ว อยู่ที่ประมาณ 2,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 จากปีก่อนหน้า โดยสิ่งสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจือปั่ว คือ อุตสาหกรรมประเภท วัสดุใหม่ การผลิตอัจฉริยะ เป็นต้น ส่วนภาคบริการก็เติบโตประมาณร้อยละ 4.4
จือปั่ว (Zibo) เมืองอุตสาหกรรมที่เงียบสงบซึ่งมีประชากร 4.7 ล้านคน ทางตะวันออกของจีน มักไม่เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม แต่เมื่อเร็วๆ นี้ บรรดาชาวเมืองกลับต้องตกตะลึงกับจำนวนนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล
ทั้งนี้ ตัวเลขจีดีพีของเมืองจือปั่วในปีที่แล้ว อยู่ที่ประมาณ 2,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 จากปีก่อนหน้า โดยสิ่งสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจือปั่ว คือ อุตสาหกรรมประเภท วัสดุใหม่ การผลิตอัจฉริยะ เป็นต้น ส่วนภาคบริการก็เติบโตประมาณร้อยละ 4.4
...
จือปั่ว กลายเป็นศูนย์กลางของความคลั่งไคล้ในสื่อสังคมออนไลน์ นับตั้งแต่จีนประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมโควิดเมื่อเดือนมกราคม นักท่องเที่ยวในประเทศหลายล้านคนเดินทางมายังเมืองแห่งนี้ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ในมณฑลซานตง เพราะเชื่อในคำโฆษณาของบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ และใช้โอกาสนี้ในการปลดปล่อยความเครียดหลังจากการล็อกดาวน์มานานหลายปี
แต่ที่ดึงดูดใจที่สุดคือบาร์บีคิวราคาถูก โดยเสียบไม้ขายในราคาเพียงอันละ 2 หยวน หรือ 10 บาท
คลิปวิดีโอแสดงให้เห็นบรรยากาศที่คึกคักขณะที่ฝูงชนกินและดื่มจนอิ่มหนำ ส่วนวิดีโอบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีน "เสี่ยว หง ชู" แสดงให้เห็นบรรดานักท่องเที่ยวที่เต้นรำและร้องเพลงรอบโต๊ะอาหาร ขณะที่คนอื่นๆ โบกแท่งไฟไปรอบๆ
อาหารเสียบไม้ เป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตอนเหนือและตะวันตกของจีน ที่มักประกอบด้วยเนื้อหมักและผักชิ้นเล็กๆ เสียบไม้แล้วย่างบนเตาถ่าน ส่วนคนท้องถิ่นในจือปั่ว เพลิดเพลินกับการกลิ้งไม้เสียบย่างในแผ่นแป้งบางๆ ที่ใส่ต้นหอม
อินฟลูเอนเซอร์บางคนกำลังเรียกจือปั่ว ว่า "เมืองหลวงของบาร์บีคิวกลางแจ้งของจีน" ประธานสมาคมบาร์บีคิวของจือปั่ว เผยว่า มีร้านบาร์บีคิวมากกว่า 1,270 แห่งในเมือง และคำว่า "บาร์บีคิวจือปั่ว" เป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนเช่น เสี่ยว หง ชู และ เว่ยป๋อ ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม
ในเดือนนั้น จำนวนประชากรของจือปั่ว เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า เมื่อวันที่ 29 เมษายน สถานีรถไฟจือปั่ว มีรถไฟวิ่งเข้าและออกจากสถานีเป็นประวัติการณ์ถึง 87,000 เที่ยว เมืองนี้ยังมีอัตราการเข้าพักห้องพักโรงแรมสูงสุดแห่งหนึ่งของประเทศในช่วงวันหยุดโกลเด้นวีก ในสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม
ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศของจีนดีดตัวขึ้นเหนือระดับก่อนเกิดโรคโควิด-19 ในช่วงโกลเด้นวีก โดยมีการเดินทางภายในประเทศ 274 ล้านครั้ง ซึ่งสูงกว่าปี 2019 เกือบ 20% ตามข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวจีน
หน่วยงานท้องถิ่นในจือปั่ว ใช้ประโยชน์จากการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยว โซนบาร์บีคิวที่สามารถรองรับลูกค้าได้กว่า 10,000 คนพร้อมการแสดงสดของวงดนตรีถูกสร้างขึ้นในชั่วข้ามคืน
อาสาสมัครรวมถึงเด็กอนุบาลถูกส่งไปที่สถานีรถไฟเพื่อให้คำแนะนำและข้อแนะนำแก่นักท่องเที่ยว ในขณะที่พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ได้ขยายเวลาเปิดทำการ รถบัสและรถไฟที่กำหนดจะนำนักท่องเที่ยวไปและกลับจากจุดย่างบาร์บีคิวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
รัฐบาลท้องถิ่นยังขู่ว่าจะลงโทษโรงแรมที่แสวงหาผลประโยชน์จากการขึ้นราคาห้องพักมากกว่า 50% หลายคนกล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก
ชาวเมืองคนหนึ่งกล่าวว่า "รัฐบาลตอบสนองต่อกระแสความนิยมอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผู้คนที่นั่นดูติดดิน เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว และราคาย่อมเยา ความจริงใจถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดเสมอ"
...
มีหลายทฤษฎีปรากฏขึ้นเกี่ยวกับกระแสความนิยมที่เกิดขึ้นในเมืองจือป่อ ย้อนกลับไปเมื่อเกือบปีที่แล้ว เมื่อนักศึกษามหาวิทยาลัยมากกว่า 10,000 คนจากเมืองอื่นๆ ถูกส่งตัวไปที่เมืองจือป่อเพื่อกักตัว
หลังจากที่พวกเขาได้รับการปล่อยตัว ทางการได้เลี้ยงพวกเขาด้วยการปิ้งบาร์บีคิว และเชิญพวกเขากลับมาเยี่ยมเยียน "ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกไม้บานสะพรั่ง" บางคนตอบรับคำเชิญและการแฮชแท็กเกี่ยวกับการเดินทางของพวกเขาเริ่มได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น โต่วอิน ซึ่งเป็น TikTok ในเวอร์ชันของจีน
อาหารราคาย่อมเยาในจือป่อ ยังดึงดูดใจบรรดานักศึกษาที่รับเอาเทรนด์การเดินทางแบบ "หน่วยรบพิเศษ" ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการเดินทางระยะสั้นพร้อมกำหนดการท่องเที่ยวที่อัดแน่นโดยใช้เงินที่น้อยที่สุด
นักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 3 ซึ่งไม่ประสงค์ออกนามกล่าวว่า "เราไม่มีเงินมากนัก แต่เรามีเวลาว่างมาก หลังจากล็อกดาวน์สามปี ผู้คนอยากออกไปสูดอากาศหายใจ ดังนั้นทุกคนจึงออกเดินทางเพื่อล้างแค้น"
บรรดาอินฟลูเอนเซอร์ก็ร่วมกระจายข่าวเช่นกัน โดยผู้ใช้โต่วอิน ที่มีชื่อว่า SpecialWulala ซึ่งเป็นบล็อกเกอร์ด้านอาหารที่มีผู้ติดตามมากกว่า 15 ล้านคน ได้เดินทางไปยังเมืองจือป่อ ในเดือนมีนาคม หลังจากถูกแท็กโดยผู้คนที่ขอให้เขาไปเที่ยว
หนึ่งเดือนต่อมา ผู้มีอิทธิพลที่โด่งดังซึ่งเชี่ยวชาญในการเปิดโปงร้านอาหารที่ไม่ซื่อสัตย์ ได้เดินทางไปที่จือป่อ และบอกว่าเขาไม่พบความผิดปกติแอบแฝงเกี่ยวกับแผงลอยขายอาหารที่นั่น
แต่ไม่ใช่ทุกคนในเมืองที่สามารถรับมือกับการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวได้
วิดีโอที่แชร์กันอย่างแพร่หลายในเว่ยป๋อ แสดงให้เห็นเจ้าของร้านอาหารรายหนึ่งคุกเข่าก้มหัวลงซ้ำๆ และขอโทษลูกค้าที่ไม่ได้รับบริการ เนื่องจากร้านอาหารเต็มแล้ว "โปรดยกโทษให้ฉันด้วย" เขากล่าว ตามรายงานของเซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ พนักงานของร้านอาหารกล่าวว่า พนักงานได้นอนเพียงสี่ชั่วโมงต่อวัน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
...
เมื่อวันที่ 26 เมษายน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจือป่อ ได้เผยแพร่จดหมายแนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดวันแรงงาน โดยระบุว่า "ไฟ" สำหรับปิ้งของบาร์บีคิวอาจมีไม่เพียงพอ "เราพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาเมื่อเร็วๆ นี้ แต่มันสร้างปัญหาและความไม่สะดวกให้กับทุกคน"
นายจางเห็นด้วยว่าการมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากนั้นไม่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการปิ้งบาร์บีคิวเป็นกิจกรรมที่ขัดขึ้นในช่วงฤดูร้อน
"ในระยะยาว มันขึ้นอยู่กับความจุของเมือง เมืองนี้มีประชากรน้อยกว่า 5 ล้านคน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะรองรับนักท่องเที่ยวที่ไหลเข้าเฉลี่ยวันละกว่า 200,000 คน"
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านส่วนใหญ่ดูมีความสุขกับการที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามา และเลี่ยงจากสถานที่ยอดนิยมเพื่อให้มีที่ว่างสำหรับบุคคลภายนอก นายจางผู้กล่าวว่าเขา "ภูมิใจ" ที่บ้านเกิดของเขาได้รับชื่อเสียงไปทั่วประเทศ.