วาระครบรอบ 70 ปีของการเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯและสาธารณรัฐเกาหลีหรือเกาหลีใต้ 25-29 เมษายน 2023 นายยุน ซอก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จะเดินทางไปเยือนโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ และจะมีการประชุมสุดยอดเพื่อนำเสนอผลลัพธ์ของความพยายามของเหล่าพันธมิตรในการปรับปรุงการรับมือภัยคุกคามที่มีเพิ่มขึ้นจากเกาหลีเหนือ

รัฐบาลเกาหลีใต้มีนโยบายคัดค้านการจัดหาอาวุธให้ประเทศที่เผชิญความขัดแย้งมานานแล้ว และทำให้เกาหลีใต้ไม่สามารถจัดหาอาวุธให้อูเครนได้โดยตรงตามที่สหรัฐฯร้องขอ สิ่งที่เกาหลีใต้ทำได้ก็คือร่วมแซงก์ชันรัสเซีย และมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่อูเครน นอกจากนั้น ยังส่งรถถังและปืนใหญ่วิถีโค้งไปให้โปแลนด์ การส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ไปให้โปแลนด์ก็เป็นที่รู้กันนะครับ ว่าเกาหลีใต้มีความมุ่งหวังตั้งใจที่จะให้โปแลนด์ส่งมอบอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้ต่อไปให้อูเครน

สัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีข่าวยืนยันว่า เกาหลีใต้กำลังให้สหรัฐฯยืมกระสุน 155 มม.จำนวน 5 แสนนัดแก่สหรัฐฯ ท่านใดที่กินข้าวกินขนมปังก็ต้องมองออกว่า สหรัฐฯมีความจำเป็นอันใดที่ต้องยืมกระสุนของเกาหลีใต้เอาไปใช้ และเอาไปใช้ที่ไหนถ้าไม่ใช่เอาไปให้ อูเครนรบกับรัสเซีย

ตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย-อูเครนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2022 เป็นต้นมา เกาหลีใต้ก็ปฏิเสธการส่งอาวุธโดยตรงไปให้อูเครน แต่ขณะนี้เกาหลีใต้กำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในนโยบายด้านการให้อาวุธแก่ประเทศที่กำลังขัดแย้งกัน

20 เมษายน 2023 สำนักงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้พูดแบบกำกวมว่า การตัดสินใจส่งความช่วยเหลือทางทหารให้อูเครนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการกระทำของรัสเซีย เกาหลีใต้อาจเปลี่ยนจุดยืนโดยการจัดหาอาวุธให้อูเครน ประธานาธิบดียุนให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เกาหลีใต้กำลังศึกษาแนวทางการช่วยเหลือเพื่อปกป้องและฟื้นฟูอูเครน

...

ขณะนี้มีเอกสารข้อมูลข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมอเมริกันรั่วออกมาทางอินเตอร์เน็ต (ซึ่งได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นเอกสารจริง) มีข้อใหญ่ใจความว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ไม่สามารถตัดสินใจได้ระหว่าง 1.คงนโยบายเดิมในการงดจัดหาอาวุธให้ประเทศที่อยู่ในภาวะสงคราม และ 2.จัดหาอาวุธให้อูเครนตามแรงกดดันอย่างหนักมากขึ้นเรื่อยๆของสหรัฐฯ

ประธานาธิบดียุนรู้ดีว่า เมื่อเผชิญหน้ากับประธานาธิบดีไบเดน คงจะต้องถูกถามเรื่องนี้เพื่อกดดันให้มีการตัดสินใจ ประธานาธิบดียุนจึงแถลงข่าวและให้สำนักงานประธานาธิบดีเผยแพร่ข่าวนี้ออกไปก่อนการเดินทาง

เกาหลีใต้มีพรมแดนประชิดติดเกาหลีเหนือ เกาหลีเหนือเป็นพันธมิตรสำคัญของรัสเซีย การที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้พูดอย่างนี้ก็เหมือนการเอาไม้สั้นไปรันขี้ ขี้ก็มีโอกาสเปรอะมาที่มือ และเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเนื้อตัว อยู่ดีไม่ว่าดี ไปสร้าง ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่หน้าประตูบ้านของตนเอง

ดมิทรี เมียดแวเดียฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งตอนนี้มาเป็นรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซียบอกว่า หากเกาหลีใต้จัดหาอาวุธให้กับอูเครน รัสเซียก็จะมอบอาวุธทันสมัยให้กับเกาหลีเหนือ “ผมสงสัยว่าประชาชนของประเทศนี้ (เกาหลีใต้) จะพูดอย่างไร เมื่อเห็นอาวุธใหม่ล่าสุดของรัสเซียไปอยู่ในความครอบครองของประเทศที่อยู่ใกล้ที่สุดของตัวเอง”

หากสถานการณ์ไปในทำนองนี้ก็อาจจะเกิดความขัดแย้งครั้งใหม่ คราวนี้ก็จะมีหลายคู่แล้วครับ เช่น รัสเซีย-อูเครน เกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ จีน-ไต้หวัน ฯลฯ ถ้าต้องการให้โลกสงบ สหรัฐฯไม่ควร ไปกดดันเกาหลีใต้ให้ต้องหาอาวุธให้อูเครน เพราะมันจะเป็นสาเหตุที่ทำให้รัสเซียต้องส่งอาวุธให้เกาหลีเหนือ แล้วการทะเลาะกันระหว่างเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ก็จะเกิด เรื่องอย่างนี้ไม่มีใครยอมใครดอกครับ ในความเป็นจริงตัวร้ายที่คอยทำให้เกิดความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ ก็คือสหรัฐฯ

ในยุคของทรัมป์ แม้ว่าทรัมป์จะเป็นผู้นำที่ปากไม่ค่อยดี แต่ใจก็ไม่เหี้ยมอำมหิตอยากให้มีสงครามเกิดไปทั่วแบบไบเดน
ในยุคของทรัมป์ ทรัมป์พบกับคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เพื่อให้โลกเย็นลง แต่ในยุคของไบเดนไม่ใช่.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com