เมื่อวานนี้ผมเขียนเปรียบเทียบ กรณี “แบงก์ล้ม” ที่อเมริกาว่าเหมือน “ฝนตก” ที่โน่น แต่กลัวว่านํ้าจะไหลบ่า “มาท่วม” ในบ้านเรา เพราะโลกยุคปัจจุบันนั้นแคบเหลือเกิน

มีการติดต่อค้าขายและใช้บริการด้านการเงินกันทั่วโลกผ่านระบบไฮเทคทันสมัย...เกิดเหตุร้ายทางเศรษฐกิจขึ้นที่ใดที่หนึ่ง ก็อาจจะลามไปเกิดผลกระทบในประเทศคู่ค้าคู่ขายได้ในชั่วพริบตา

จริงๆแล้วผมอยากจะเปรียบเทียบกับเพลง “ฝนตกบ้านน้องฟ้าร้องบ้านพี่” ของ ชาย เมืองสิงห์ เมื่อ 50 ปีก่อน หรือไม่ก็เพลง “เล่าสู่กันฟัง” ของ เบิร์ด ธงไชย ที่ร้องว่า “ฝนที่ตกทางโน้นหนาวถึงคนทางนี้” เมื่อสัก 20 กว่าปีที่แล้วเสียมากกว่า

แต่เผอิญว่าเรากับสหรัฐฯ ไม่ใช่คู่รักคู่ใคร่อะไรกันนักหนาเหมือนในเพลง 2 เพลงนี้ แค่เป็นเพื่อนสนิทที่คบกันอยู่เท่านั้น จะเปรียบเทียบกับ 2 เพลงที่ว่าก็จะเกินไป

ผมก็เลยเปรียบเทียบเสียใหม่ว่า...“ฝนตก” หนักที่อเมริกา อย่าให้ “นํ้า” ไหลมา “ท่วม” ประเทศไทยเข้าให้ก็แล้วกัน

แต่ในช่วงท้ายผมก็สรุปว่า เบาใจไปหลายเปลาะที่ท่านรัฐมนตรีคลังของไทย คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ และทางธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงออกมาแถลงว่าแบงก์ล้มของเขาไม่มีส่วนกระทบมาถึงเราแน่นอน เพราะเราติดต่อค้าขายกับ 2 แบงก์นี้น้อยมาก หรือแทบไม่ติดต่อเลยก็ว่าได้

เมื่อเบาใจลงแล้ว แต่เพื่อความไม่ประมาท ผมก็ฝากท่านรัฐมนตรีคลัง และฝากท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ขอให้ติดตามสถานการณ์ต่อไป อย่าได้ประมาทเป็นอันขาด

อย่าให้ผลกระทบกรณี “แบงก์ล้ม” ระบาดลามมาถึงเราเด็ดขาดและหากว่าอาจจะมีหรืออาจจะมา จะด้วยเหตุใดก็ตาม เราจะได้หาทางแก้ไขอย่างทันท่วงที

...

วันนี้ผมขอนำมาเขียนย้ำฝาก...ถึงกระทรวงการคลังและแบงก์ชาติอีกครั้ง ขอให้ทำหน้าที่ “เฝ้าระวัง” ในปัญหาเดียวกันนี้ให้ดีที่สุด

ไม่เพียงแค่จะติดตามสถานการณ์ทั้งของโลก ของสหรัฐอเมริกา หรือประเทศคู่ค้าต่างๆเท่านั้น ขอให้ติดตาม ตรวจสอบสถานการณ์ของบ้านเราเองอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย

แม้ในภาพรวมสถานะของแบงก์ไทยเรายังอยู่ในเกณฑ์ดี เท่าที่แถลงข่าวออกมาล้วนแต่มีกำไรสูงๆกันทั้งนั้น

แต่อาจจะมีบางธนาคารที่เราจะต้องดูแลระมัดระวังเป็นพิเศษแฝงอยู่ด้วยก็ได้ เพราะในภาวะเศรษฐกิจอันเลวร้ายทั่วโลกเช่นนี้ ย่อมจะมีปัญหาซ่อนเร้นเกิดขึ้นอยู่เสมอ รวมทั้งในบ้านเราเอง

ผมเคยมีโอกาสทำงานประสานกับแบงก์ชาติในยุคก่อนอยู่พอสมควร ทราบดีถึงความรู้ความสามารถของบุคลากรของแบงก์ชาติว่าไม่แพ้นักการเงินชาติใดในโลกนี้แม้แต่น้อย

อาจมีบางยุคที่เผลอพลาดพลั้งไปบ้างเช่นเมื่อปี 2540 ทำให้เจ็บปวดพอสมควร แต่ในที่สุดก็ฟื้นกลับมาได้ หลังจากนั้นมาบุคลากรของแบงก์ชาติก็กล้าแกร่ง และเดินติดดินมิใช่อยู่บนหอคอยงาช้างอีกต่อไป

ช่วงนี้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกคับขันมาก จังหวะเดียวกับที่บ้านเราก็จำเป็นต้องมีการเลือกตั้งใหม่ตามรัฐธรรมนูญ ทำให้นักการเมืองต้องหันไปทุ่มเทกับการหาเสียงแทนไม่มีเวลาที่จะทำงานให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องทางเศรษฐกิจหรือการเงินเต็มที่

ยังโชคดีที่ รมว.คลังท่านเป็นข้าราชการเก่า และยังไม่มีข่าวจะไปสมัครกับพรรคใด ก็คงจะมีเวลาดูแลเต็มที่ได้มากกว่าคนอื่น

ผมก็ฝากท่านรัฐมนตรีไว้และขอฝากน้องๆ แบงก์ชาติไว้ด้วย ให้ช่วยกันติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจการเงินของโลก และของไทยเราในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งหาทางระมัดระวังป้องกันตัวเราเองอย่างเต็มที่

เราจะได้ร้องเพลงเบิร์ดกันอย่างสบายใจ และได้อารมณ์ศิลปินอย่างถ่องแท้ “ฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้” ก็เป็นฝนเป็นหนาวในเชิงกวีเปรียบเทียบกันให้ซาบซึ้ง ตามประสาคนรักเสียงเพลงเท่านั้น

ไม่ใช่ “หนาว” จริงๆ เหมือนที่ผมรู้สึก “หนาว” ช่วงที่ได้ข่าวว่า แบงก์ที่อเมริกาล้มถึง 2 แบงก์ติดกันเมื่อวันเสาร์ที่แล้วว่างั้นเถอะ.

“ซูม”