เมืองหลายสิบเมืองในประเทศจีน เผชิญสภาพอากาศร้อนจัดทุบสถิติในสัปดาห์นี้ โดยบางพื้นที่อุณหภูมิสูงกว่าปกติถึง 10 องศาเซลเซียส ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในช่วงต้นเดือนมีนาคม

เมืองอู่ฮั่นและเจิ้งโจว ทางตอนกลางของจีนเผชิญกับอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นทุบสถิติในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะที่เมืองอู่ฮั่น ที่อยู่ช่วงกลางของแม่น้ำแยงซี มีอุณหภูมิอยู่ที่ 26 องศาเซลเซียส เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงต้นเดือนมีนาคม 12 องศาเซลเซียส ขณะที่กรุงปักกิ่ง และเมืองรอบๆ ก็มีอุณหภูมิสูงถึง 22-25 องศาเซลเซียส ในช่วงต้นสัปดาห์นี้เช่นเดียวกัน

เมื่อปีที่แล้วประเทศจีนต้องเผชิญกับอุณหภูมิร้อนจัดเป็นเวลานานหลายเดือน โดยจุดตรวจวัดสภาพอากาศ 267 จุด ต่างมีอุณหภูมิสูงทำลายสถิติเกินกว่า 40 องศาเซลเซียส ในช่วงระยะเวลา 70 วันของช่วงฤดูร้อน ส่งผลกระทบต่อลุ่มแม่น้ำแยงซีทั้งสาย ทำให้เกิดไฟป่า และพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย

โดยในปีนี้ หน่วยงานด้านสภาพอากาศของจีน ได้มีการประกาศเตือนล่วงหน้าแล้วว่า ในปี 2023 นี้ จีนอาจจะต้องเผชิญกับสภาพอากาศรุนแรงสุดขั้วอีกปี ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก

ขณะที่ในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าจากน้ำเป็นหลัก กำลังต้องรับมือกับภัยแล้งที่คาดการณ์ว่าน่าจะกินระยะเวลาไปจนถึง เมษายน โดยมีปริมาณฝนตกเฉลี่ยต่ำกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณน้ำฝนปกติ นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

ส่วนทะเลสาบโปยาง ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศในมณฑลเจียงซี ก็ยังคงไม่ฟื้นตัวจากภาวะภัยแล้งจากปีที่แล้ว โดยระดับน้ำเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ลดลงต่ำกว่า 7 เมตร ใกล้เคียงกับระดับต่ำที่สุดที่เคยมีการบันทึกไว้

ด้านหน่วยงานพยากรณ์อากาศของจีนระบุในการแถลงข่าวประจำเดือน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งเดือนกุมภาพันธ์สูงกว่าระดับปกติราว 1.6 องศาเซลเซียส โดยมีปริมาณฝนเฉลี่ยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติ 3.9 เปอร์เซ็นต์ด้วย

...

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของสภาพอากาศเช่นนี้ จะส่งผลให้ฤดูใบไม้ผลิมาเร็วกว่าปกติ อาจจะเร็วกว่าเดิมถึง 20 วัน ขณะที่สภาพความกดอากาศต่ำในสัปดาห์นี้ จะส่งผลให้หมอกควันมลพิษเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่ทั้งในกรุงปักกิ่ง เทียนจิน และเหอเป่ยทางตอนเหนือของจีนด้วย.