ในขณะที่ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนยังไม่มีท่าทีจะคลี่คลายความตึงเครียดนั้น เมื่อวันที่ 28 ก.พ. นายนิโคลัส เบิร์นส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีน ได้กล่าวจุดประเด็นเรื่องที่มาของไวรัสโควิด-19 อีกครั้งระหว่างงานเสวนากับหอการค้าสหรัฐฯ โดยระบุว่า จีนจำเป็นต้องแสดงความจริงใจมากกว่านี้ว่า 3 ปีก่อนเกิดอะไรขึ้นในเมืองอู่ฮั่นที่นำไปสู่วิกฤตการณ์โควิด-19 เพื่อที่จีนจะได้มีบทบาทมากขึ้นในองค์การอนามัยโลก (WHO) และทำให้องค์การอนามัยโลกเข้มแข็งมากกว่าเดิม แถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังกระทรวงพลังงานสหรัฐฯให้ข้อสรุปว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นมีความเป็นไปได้ที่ต้นตอจะมาจากการที่เชื้อหลุดออกมาจากห้องแล็บจีน
ทั้งนี้ ทางการสหรัฐฯมีการจุดประเด็นห้องแล็บจีนเป็นระยะๆ ซึ่งจีนกล่าวปฏิเสธอย่างหนักแน่น วันเดียวกัน นายจอห์น ลี ผู้นำฮ่องกง ประกาศยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. เป็นต้นไป หวังฟื้นสภาพการใช้ชีวิตและดึงดูดนักเดินทาง นักธุรกิจ ส่วนในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างโรงพยาบาล ให้เป็นหน้าที่ของผู้อำนวยการโรงพยาบาลตัดสินใจว่าจะให้พนักงานหรือผู้เข้ารับบริการสวมหน้ากากหรือไม่.