สหภาพยุโรปและรัฐบาลอังกฤษบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกฎการค้าใหม่ในไอร์แลนด์เหนือแล้ว หวังแก้ปัญหาที่สร้างความตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝ่ายหลังการเบร็กซิต

เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ก.พ. 2566 นายกรัฐมนตรี ริชี ซูแน็ก แห่งสหราชอาณาจักรกับนางเออร์ซูลา วอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แถลงข่าวร่วมกันที่เมืองวินเซอร์ มณฑลบาร์กเชอร์ ในอังกฤษ ระบุว่า พวกเขาบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกฎการค้าใหม่ในไอร์แลนด์เหนือ ที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีปัญหากันมานับตั้งแต่ UK แยกตัวจาก EU เมื่อ 3 ปีก่อน

ข้อตกลงใหม่ดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจาก ‘พิธีสารไอร์แลนด์เหนือ’ อันเป็นภาคผนวกในข้อตกลงแยกตัว หรือ เบร็กซิต ที่นายบอริส จอห์นสัน นายกฯ อังกฤษในตอนนั้นตกลงร่วมกับ EU ในปี 2562

พิธีสารนี้เกิดขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้มีการควบคุมการเข้าออกของสินค้าระหว่างไอร์แลนด์กับไอร์แลนด์เหนืออย่างเข้มงวดเกินไป ด้วยการให้ไอร์แลนด์เหนืออยู่ในตลาดเดียวของสหภาพยุโรปต่อไปแม้ UK จะแยกตัวออกมาแล้ว แต่กลับเกิดปัญหาหลายอย่างตั้งแต่ ภาระจากขั้นตอนทางศุลกากร, การตรวจสอบที่ไม่ยืดหยุ่น, ความไม่ลงรอยทางภาษีและการใช้จ่าย ซึ่งอังกฤษต้องการแก้ไข

ผู้นำทั้งสองคนเปิดเผยองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่างที่ข้อตกลงใหม่จะช่วยพัฒนาพิธีสารไอร์แลนด์เหนือในดีขึ้น โดยนายซูแน็กกล่าวว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยปกป้องกระแสการค้าเสรีระหว่างไอร์แลนด์เหนือกับแคว้นอื่นๆ ของสหราชอาณาจักรซึ่งได้แก่ อังกฤษ, เวลส์ และสกอตแลนด์ ด้วยการสร้างช่องทางส่งออกสีเขียวและสีแดงสำหรับสินค้าที่จะเข้าสู่ไอร์แลนด์เหนือ

นายซูแน็กอธิบายว่า สินค้าที่มีความเสี่ยงไหลไปสู่สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสมาชิก EU จะถูกนำเข้าเส้นทางสีแดง (red lane) ซึ่งต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดก่อนจะส่งออกไปไอร์แลนด์เหนือ ส่วนสินค้าที่จะอยู่ในไอร์แลนด์เหนือต่อไป จะถูกส่งผ่านเส้นทางสีเขียว (green lane) ซึ่งไม่ต้องตรวจสินค้าและเอกสาร

...

นายกฯ อังกฤษกล่าวอีกว่า ข้อตกลงนี้จะทำให้ UK กับ EU สามารถปกป้องพื้นที่ของไอร์แลนด์เหนือในสหภาพยุโรปได้ ด้วยการให้รัฐบาล UK เป็นฝ่ายกำหนดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในไอร์แลนด์เหนือ ต่างกับระบบในปัจจุบันที่ EU เป็นผู้กำหนดอัตรา ทำให้รัฐบาล UK สามารถบังคับใช้นโยบายใหม่ๆ ที่เพิ่งเมื่อไม่นานมานี้ในไอร์แลนด์เหนือได้

สุดท้ายนายซูแน็กประกาศเรื่องกลไกที่เรียกว่า ‘Stormont brake’ ซึ่งจะให้อำนาจรัฐบาลของไอร์แลนด์เหนือสามารถเหยียบเบรกฉุกเฉิน ไม่ให้กฎหมายใดที่ EU จะบังคับใช้ใหม่ถูกบังคับใช้ในดินแดนของพวกเขา และเมื่อเหยียบเบรกแล้ว รัฐบาลกลางอังกฤษจะสามารถวีโต้ หรือคัดค้าน กฎหมายนั้นๆ ได้

ที่มา : cnn