หนุ่มชาวจีนวัย 19 ปี กลายเป็นผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ที่อายุน้อยที่สุดในโลก ทั้งๆ ที่ครอบครัวไม่มีประวัติป่วยด้วยโรคนี้มาก่อน

นักวิทยาศาสตร์กรุงปักกิ่งเปิดเผยเคสผู้ป่วยอัลไซเมอร์เป็นหนุ่มชาวจีนวัยเพียง 19 ปี ซึ่งนับเป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา โดยครอบครัวของชายหนุ่มคนดังกล่าวไม่เคยมีประวัติป่วยด้วยโรคนี้มาก่อน และดูเหมือนว่าโรคอัลไซเมอร์ของเคสนี้มีความเชื่อมโยงกับไวรัสด้วย

สำหรับอาการของหนุ่มรายนี้เริ่มแสดงให้เห็นชัดเจนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างเริ่มจำอะไรไม่ได้ ยากที่จะตั้งสมาธิกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีการตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ช้า และไม่สามารถอ่านหนังสือได้ โดยเขาได้เข้ารับการรักษากับแพทย์ที่มหาวิทยาลัยการแพทย์กลางในกรุงปักกิ่ง ด้วยอาการเริ่มต้นที่จำไม่ได้ว่าเมื่อวานนี้เขาทานอาหารอะไรเป็นมื้อเย็น ทำให้เขาต้องลาออกจากการเรียนปีสุดท้ายในระดับมัธยมปลายกลางคัน

ซึ่งผลจากการทดสอบและสแกนสมองพบว่าสองส่วนที่เรียกว่า ไฮโปทาลามัส ที่มีส่วนสำคัญต่อการเรียนรู้มีการหดตัวลง และพบความเสียหายของกลีบสมองของเขา ขณะที่ระดับโปรตีนที่เรียกว่า tau อยู่ในระดับสูง ซึ่งทั้งสองอย่างเป็นลักษณะเด่นของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ แต่สิ่งที่เคสนี้ไม่เหมือนใครก็เพราะคนในครอบครัวไม่มีประวัติการป่วยด้วยโรคนี้มาก่อน เพราะส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่เป็นอัลไซเมอร์ตั้งแต่อายุยังน้อยมักจะได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมมา

ทั้งนี้โรคอัลไซเมอร์มักจะพบในกลุ่มคนอายุ 65 ปีขึ้นไป โดยจะมีผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่า 65 ปีคิดเป็น 5-10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดที่ป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์มีอายุ 21 ปี และเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรม.

ที่มา : เดลิเมล์

...