กองทัพสหรัฐฯพบชิ้นส่วนอุปกรณ์เซนเซอร์ในมหาสมุทรแอตแลนติก คาดว่ามาจากซากบอลลูนสอดแนมของจีน ซึ่งถูกสหรัฐฯ ยิงตกเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

หน่วยบัญชาการทหารสหรัฐฯ ภาคเหนือ แถลงการพบชิ้นส่วนอุปกรณ์เซนเซอร์ จากจุดที่ค้นหาชิ้นส่วนของบอลลูนสอดแนมจากจีน ที่ถูกเครื่องบินขับไล่เอฟ-22 แรปเตอร์ยิงตกนอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังนำชิ้นส่วนดังกล่าวไปวิเคราะห์ พร้อมกับชิ้นส่วนเสาอากาศของบอลลูนขนาดราว 9-12 เมตร

โดยทางการสหรัฐฯ ระบุว่าบอลลูนจากจีนที่บินในระดับความสูงเช่นนี้น่าจะใช้เพื่อการสอดแนม ขณะที่จีนยืนยันว่า บอลลูนลูกนี้เป็นยานตรวจสภาพอากาศที่ไม่ได้ใช้งานทางทหาร ซึ่งบังเอิญถูกกระแสลมพัดเข้ามาไกลจากเส้นทางเดิม

หลังจากการพบบอลลูนดังกล่าว เครื่องบินรบของสหรัฐฯ ยังมีการยิงจรวดโจมตีวัตถุปริศนาตกอีก 3 ชิ้น ในช่วงเวลาเพียง 8 วัน ทั้งบริเวณเหนืออลาสกาที่มีขนาดเท่ารถคันเล็ก บริเวณเมืองยูคอนของแคนาดาที่มีรูปร่างเป็นทรงกระบอก และวัตถุปริศนาเหนือทะเลสาบฮูรอนที่มีรูปทรงแปดเหลี่ยม โดยวัตถุทั้ง 3 มีขนาดเล็กกว่าบอลลูนอันแรก ขณะที่จรวดมิสไซล์ไซด์วินด์เดอร์แต่ละลูกที่ใช้ยิงมีมูลค่ากว่า 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 13,500,000 บาท

...

ทั้งนี้ มีรายงานว่านายแอนโทนี่ บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาที่จะเข้าพบหารือกับนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีนในสัปดาห์นี้ ในระหว่างการประชุมความมั่นคงที่มิวนิก ประเทศเยอรมนี แต่ยังต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง.

ที่มา :บีบีซี