แรงงานในฝรั่งเศสหลายแสนคนหยุดงานประท้วงและออกมาชุมนุมกันในหลายเมืองทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 2 เพื่อต่อต้านแผนขยายอายุเกษียณของประธานาธิบดีมาครง
เมื่อวันอังคารที่ 31 ม.ค. 2566 แรงงานในฝรั่งเศสจำนวนมหาศาลหยุดงานประท้วงและออกมาชุมนุม เพื่อต่อต้านแผนขยายอายุเกษียณจาก 62 ปี เป็น 64 ปีของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง เป็นรอบที่ 2 โดย 8 สหภาพแรงงานขนาดใหญ่เข้าร่วมประท้วงด้วย ส่งผลกระทบวงกว้างตั้งแต่การสอนในโรงเรียน, บริหารขนส่งสาธารณะ และการกลั่นน้ำมัน
การเดินขบวนของประชาชนนับแสนคนเกิดขึ้นในหลายเมืองทั่วฝรั่งเศส หลังการประท้วงรอบแรกดึงดูดผู้ประท้วงได้มากกว่า 1 ล้านคน อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่า หลายเมืองมีผู้ออกมาชุมนุมมากกว่าการประท้วงเมื่อ 19 ม.ค.
...
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่การชุมนุมหลักที่ลานสาธารณะ ‘แปลส ดิตาลี’ (Place d'Italie) ใจกลางกรุงปารีสจะเริ่มต้นขึ้น ประชาชนหลายพันคนออกมารวมตัวกันที่เมืองตูลูส, มาร์แซย์ และนีซในภาคใต้ กับที่เมืองแซงต์ นาแซร์, น็องต์, และเมืองแรนส์ ทางตะวันตก ขณะที่มีการส่งตำรวจกว่า 11,000 นายไปประจำการใน 200 เมืองเพื่อดูแลการประท้วง
การประท้วงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคการขนส่ง โดยมีรถไฟความเร็วสูงเพียง 1 ขบวนจาก 3 ขบวนที่ยังให้บริการอยู่ และในกรุงปารีสเหลือรถไฟใต้ดินให้บริการเพียง 2 สายเท่านั้น ขณะเดียวกัน หนึ่งในสหภาพครูขนาดใหญ่ของฝรั่งเศสเผยว่า มีครูโรงเรียนประถมประมาณ 55% ร่วมประท้วงหยุดงาน แม้รัฐบาลจะระบุตัวเลขต่ำกว่านั้นมาก
ด้านสภาพแรงงาน CGT ระบุว่า คนงาน 3 ใน 4 ที่โรงกลั่นน้ำมันและคลังเชื้อเพลิงหลายแห่งของบริษัท ‘TotalEnergies’ หยุดงานประท้วง ส่วนบริษัท ECF ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของฝรั่งเศสระบุว่า โรงงานไฟฟ้าหลายแห่งต้องลดกำลังผลิตลงหลังจากคนงานไปร่วมประท้วง
ทั้งนี้ รัฐบาลมาครงพยายามผลักดันแผนปฏิรูปเกณฑ์อายุรับเงินบำนาญ แม้ผลสำรวจความคิดเห็นจะชี้ว่า ประชาชนถึง 2 ใน 3 ต่อต้านแผนการนี้ โดยจะมีการลงมติในรัฐสภาแห่งชาติในสัปดาห์หน้า ซึ่งมาครงจำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายขวาอย่าง รีพับลิกัน เพื่อให้ได้เสียงข้างมาก หากต้องการผ่านร่างกฎหมายนี้
อายุเกษียณที่ 62 ปีของฝรั่งเศสถือว่าต่ำกว่าหลายประเทศในยุโรปตะวันตก โดยอิตาลีกับเยอรมนีกำลังเดินหน้าเพิ่มอายุเกษียณเป็น 67 ปี ขณะที่อายุเกษียณในสเปนอยู่ที่ 65 ปี ส่วนในสหราชอาณาจักรอยู่ที่ 66 ปี
อย่างไรก็ตาม นายฌอง-ลุค เมลองชง ผู้นำพรรคฝ่ายซ้ายจัดในฝรั่งเศสกล่าวว่า “นายมาครงจะต้องแพ้อย่างแน่นอน ไม่มีใครต้องการการปฏิรูปของเขา และยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไร การต่อต้านก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น”
ที่มา : bbc