ก็ตื่นเต้นไปทั่วโลก เมื่อผู้นำจีนตัดสินใจเปิดประเทศแบบกะทันหัน อนุญาตให้คนจีนออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้ แต่ “กรุ๊ปทัวร์จีน” รัฐบาลจีนเพิ่งประกาศเมื่อ 20 มกราคม อนุญาตให้บริษัททัวร์จัดนำเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ได้ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป นำร่องก่อน 20 ประเทศ มี ไทย อินโดนีเซีย กัมพูชา มัลดีฟส์ ศรีลังกา ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว ยูเออี อียิปต์ เคนยา แอฟริกาใต้ รัสเซีย สวิส ฮังการี นิวซีแลนด์ ฟิจิ คิวบา อาร์เจนตินา ประเทศที่เป็นมิตรกับจีน สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น ยังไม่อนุญาต

กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน ได้กำชับให้บริษัททัวร์ ต้องดำเนินการตามหลักการของประเทศที่จะไป ป้องกันและควบคุมโรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ ให้แต่ละคนรับผิดชอบต่อสุขภาพของตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้คนท้องถิ่นกลัวนักท่องเที่ยวจีนจะไปแพร่เชื้อ

สถานีโทรทัศน์จีน CCTV รายงานว่า หลังจากที่จีนปรับนโยบายการเข้าและออกประเทศ ตลาดการท่องเที่ยวในต่างประเทศก็กลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงเทศกาลตรุษจีน นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปยังประเทศไทยและมัลดีฟส์ มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก คาดว่าภายในสิ้นปี 2023 จะมีนักท่องเที่ยวจีนออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศถึง 115 ล้านคน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศไทย จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน เนื่องจากมีข้อจำกัดการเข้าเมืองน้อย

จีนเป็นชาติที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก ปี 2019 ก่อนโควิดระบาด มีนักท่องเที่ยวจีนออกไปท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 155 ล้านคน มีการใช้จ่ายช็อปปิ้งปีละกว่า 250,000 ล้านดอลลาร์ แต่ละเดือนมีนักท่องเที่ยวจีนบินไปต่างประเทศกว่า 12 ล้านคน แต่พอโควิดระบาดนักท่องเที่ยวจีนลดลง 95% คาดว่าในฤดูร้อนนี้นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเดือนละ 6 ล้านคน

...

ที่เล่ามานี้เป็น ข้อมูลเชิงบวก ที่ทุกคนคาดหวังจะให้เกิดขึ้น แต่ใน ความเป็นจริงบริษัทด้านการตลาดของจีน Dragon Trail Inter national ได้สำรวจนักท่องเที่ยวจีน 1,058 คนใน 49 เมือง ระหว่างวันที่ 4–7 มกราคม เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม ระบุว่า นักท่องเที่ยวจีนราว 40% ไม่มีแผนที่จะเดินทางไปต่างประเทศในปีนี้ แม้ว่ารัฐบาลจีนจะยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์แล้วก็ตาม เหตุผลหลักๆก็คือได้รับผลกระทบทางการเงินจากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นมา 3 ปี

ผลการสำรวจยังพบว่า นักท่องเที่ยวจีนยังมีความกังวลเรื่องสุขภาพ ความยุ่งยากในการขอเอกสารเดินทาง ตารางงานที่วุ่นวาย ความกังวลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย และประเทศปลายทางที่ไม่เป็นมิตรกับจีน

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ก็เผยแพร่รายงานเมื่อวันที่ 17 มกราคม ระบุว่า ปีที่แล้วชาวจีนมีการใช้จ่ายน้อยลงเมื่อเทียบเป็นรายคน แต่ละครัวเรือนต้องประหยัดเงินมากขึ้นเนื่องจากการเติบโตของรายได้ชะลอตัวลง เศรษฐกิจจีนปี 2565 ก็มีการขยายตัวเพียง 3% ซึ่งเป็นระดับตํ่าที่สุดตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970 แม้นักเศรษฐศาสตร์จะคาดว่า เศรษฐกิจจีนปีนี้จะเติบโตเกือบ 5% แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังอยู่ใกล้ระดับตํ่าสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ค่าตั๋วเครื่องบินทั่วโลกยังเพิ่มสูงขึ้น จากปัญหาความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น

VariFlight บริษัทที่ให้ข้อมูลการบินพลเรือนของจีน ก็เปิดเผยว่า ความสามารถในการบินระหว่างประเทศของจีนมีเพียง 13% ของระดับก่อนเกิดโควิด ขณะที่กิจกรรมการเดินทางในประเทศกลับมาสู่ระดับ 100% แล้ว ผลสำรวจพบว่า ผู้ที่ตั้งใจจะเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนใหญ่มีแผนจะเดินทางหลังตรุษจีนและในครึ่งปีหลัง และ จะดีขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป จนถึง เทศกาลไหว้พระจันทร์ ในเดือนกันยายน และ วันชาติจีน ในเดือนตุลาคม

ผมก็เก็บข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้ธุรกิจท่องเที่ยวไทยเตรียมตัวล่วงหน้า อย่าเพิ่งตื่นตูมว่านักท่องเที่ยวจีนจะแห่มาเที่ยวไทยจนรับไม่ไหว ยังมีเวลาเตรียมตัวอีกนาน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”