การเกิดแก่เจ็บตายล้วนเป็นสัจธรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แทนที่จะฝืนธรรมชาติ นอนดึกตื่นสาย กินนอนไม่เป็นเวลา ใช้ชีวิตตามอำเภอใจ โดยไม่ฟังเสียงร่างกายตัวเอง ลองหันมาเรียนรู้และเข้าใจ “นาฬิกาชีวิตแห่งธรรมชาติ” แล้วคุณจะค้นพบกุญแจสู่การมีสุขภาพที่ดีแบบยั่งยืน

นอนพักกลางวันสักงีบ วันละ 15-30 นาที ในช่วง “ยามอู่” เวลาระหว่าง 11.00–13.00 น. เพื่อช่วยบำรุง “หัวใจ” ทำให้สมองได้พักและเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย เพราะเป็นเวลาที่เส้นลมปราณของหัวใจทำหน้าที่อย่างแข็งขัน

“ยามเว่ย” ช่วงเวลาระหว่าง 13.00–15.00 น. เป็นเวลาย่อยและดูดซึมสารอาหารกับน้ำของ “ลำไส้เล็ก” โดยอาศัยม้ามส่งไปยังหัวใจและปอด เพื่อเลี้ยงร่างกาย กากอาหารจะถูกส่งไปยังลำไส้ใหญ่ โดยน้ำจะดูดซึมและขับออกไปที่กระเพาะปัสสาวะ ยามเว่ยนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ลำไส้เล็กทำงานได้ดีที่สุด ฉะนั้นไม่ควรทานอาหารกลางวันเกินบ่ายโมง เผื่อเวลาสำหรับการย่อยและการดูดซึม

“ยามเซิน” ช่วงเวลาระหว่าง 15.00–17.00 น. เป็นเวลา ที่เส้นลมปราณของ “กระเพาะปัสสาวะ” ทำหน้าที่ จึงเหมาะ เจาะที่สุดที่จะดื่มน้ำและขับถ่ายปัสสาวะ โดยเฉพาะเวลา 17.00 น. จะเป็นช่วงที่หลอดเลือดหัวใจและกล้ามเนื้อในร่างกายมีความแข็งแรงที่สุด จึงเหมาะแก่ การออกกำลังกาย แต่ไม่ควรออกกำลังกายหนักๆ เพราะจะทำให้นอนไม่หลับ ลองเดินช้าๆ

“ยามโหย่ว” ช่วงเวลาระหว่าง 17.00–19.00 น. หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม เพราะเป็นเวลาที่เส้นลมปราณของ “ไต” ทำงานแข็งขัน ไตจะเก็บสะสมสารจำเป็นแต่กำเนิด ซึ่งได้รับถ่ายทอดจากพ่อแม่มาเก็บไว้ โดยสารจิงชี่จะควบคุมการเจริญเติบโตและความสามารถในการสืบพันธุ์ ในช่วงยามโหย่วควรรับประทานอาหารที่มีรสจืดและหลีกเลี่ยงอาหารเค็ม

...

“ยามซวี” ช่วงเวลาระหว่าง 19.00–21.00 น. เป็นเวลาทำงานของ “เยื่อหุ้มหัวใจ” เพื่อปกป้องหัวใจและการรุกรานจากภายนอก ในยามซวีเส้นลมปราณของเยื่อหุ้มหัวใจและเส้นประสาทสมองจะทำงานได้ดีที่สุด จึงไม่ควรรับประทานอาหารมื้อเย็นจนอิ่มเกินไป และหลังอาหารเย็นถือเป็นช่วงเวลาของการผ่อนคลายทั้งทางร่างกายและทางอารมณ์ ควรรักษาอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ รีแลกซ์ด้วยการฟังเพลงและอ่านหนังสือ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเข้านอนอย่างมีคุณภาพ

“ยามไฮ่” ช่วงเวลาระหว่าง 21.00–23.00 น. เป็นเวลาทำงานของ “ซานเจียว” ประกอบด้วยระบบหายใจ ระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย โดยซานเจียวจะทำหน้าที่เป็นทางผ่านของชี่และน้ำ จะเกี่ยวข้องกับการทำงานของอวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย เป็นช่วงที่ร่างกายปรับสมดุลความร้อนและอุณหภูมิในร่างกายจะค่อยๆลดลง ยามไฮ่นี้ร่างกายจะเริ่มหลั่งเมลาโทนิน ควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการนอนหลับพักผ่อน หากเป็นไปได้ควรแช่เท้าด้วยน้ำอุ่นประมาณ 20 นาที เพื่อให้เหงื่อออกเล็กน้อย จะช่วยให้ชี่และระบบเลือดไหลเวียนสะดวก ทำให้ร่างกายที่ทำงานหนักมาทั้งวันได้พักผ่อนและช่วยให้นอนหลับเต็มที่ สุขภาพร่างกายจะแข็งแรง

นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับนาฬิกาชีวิตแล้ว การเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสมและมีความสมดุลก็ถือเป็นเคล็ดลับของการสร้างสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ตามศาสตร์การแพทย์แผนจีนเชื่อว่า การทานเค็มมากเกินไป ทำให้เลือดไหลเวียนติดขัด, การทานเผ็ดมากเกินไป ทำให้เส้นเอ็นตึง เล็บแห้งเปราะบาง, การทานขมมากเกินไป ส่งผลให้ผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำ ผมหลุดร่วงง่าย, การทานเปรี้ยวมากเกินไป ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น และการทานหวานมากเกินไป ทำให้ปวดตามกระดูกและผมร่วง สำคัญที่สุดคือ ไม่ควรทานจนอิ่มเกินไปหรือปล่อยให้หิวเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายขาดการหล่อเลี้ยงและบำรุง ส่งผลให้การทำงานของอวัยวะต่างๆถดถอย ในทางกลับกัน ถ้าทานอิ่ม เกินไป จะทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้รับภาระหนักเกินไป มีอาหารตกค้างและหมักหมม ระบบอาหารย่อยไม่ดี เสี่ยงเกิดโรคร้ายตามมามากมาย ให้ถือคติ “มื้อเช้ากินอย่างราชา มื้อกลางวันกินให้อิ่มแค่พอดี และมื้อเย็นกินน้อยๆเพื่อชีวิตยืนยาว”.

มิสแซฟไฟร์