อีลอน มัสก์ นักธุรกิจมหาเศรษฐีชื่อดัง ทำลายสถิติ เป็นผู้ที่มีทรัพย์สินส่วนตัวลดลงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยลดลงถึง 5.5 ล้านล้านบาทภายในระยะเวลา 1 ปี
สำนักข่าว บีบีซี รายงานในวันพุธที่ 11 ม.ค. 2566 ว่า กินเนสส์ เวิดล์ เรคคอร์ดบันทึกสถิติ อีลอน มัสก์ นักธุรกิจชื่อก้องโลก กลายเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินส่วนตัวลดลงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยนับจากเดือนพฤศจิกายน 2564 จนถึงเดือนธันวาคม 2565 เขาสูญเสียทรัพย์สินไปมากถึง 1.65 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.51 ล้านล้านบาท)
กินเนสส์ เวิดล์ เรคคอร์ด อ้างข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บส์ ซึ่งระบุว่า ทรัพย์สินสุทธิของนายมัสก์ ลดลงจากจุดสูงสุดที่ 3.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพฤศจิกายน 2564 เหลือเพียง 1.55 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ใน 1 ปีต่อมา โดยสาเหตุส่วนใหญ่เป็นผลมาจากหุ้นบริษัท เทสลา ที่ลดลงถึง 65% ในปี 2565
สาเหตุที่มูลค่าหุ้นเทสลาลดลง ส่วนใหญ่เป็นเพราะ นายมัสก์ ซื้อทวิตเตอร์ในราคาสูงถึง 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เกิดความกังวลแพร่กระจายไปในหมู่นักลงทุนว่า นายมัสก์อาจไม่ให้ความสนใจต่อบริษัท เทสลา อย่างเพียงพออีกต่อไป และอีกส่วนมาจากผลประกอบการที่ไม่ดีนัก มียอดขายรถยนต์ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดเอาไว้
อย่างไรก็ตาม การลดลงของทรัพย์สินของนายมัสก์เป็นเพราะมูลค่าหุ้นที่เขาถืออยู่ลดลง หมายความว่าหากมูลค่าหุ้นสูงขึ้น ทรัพย์สินของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยตอนนี้นายมัสก์เป็นผู้มีทรัพย์สินมากที่สุดอันดับ 2 ของโลกที่ 1.78 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ รองจากนายแบร์นาร์ด อาร์โน ซึ่งมีทรัพย์สินอยู่ที่ราว 1.88 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ เจ้าของสถิติมูลค่าทรัพย์สินลดลงมากที่สุดใน 1 ปีคนก่อนเป็นของ นายซน มาซาโยชิ นักลงทุนชาวญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันเป็นซีอีโอของบริษัท ซอฟต์แบงก์ โดยทรัพย์สินของเขาเคยลดลงถึง 5.86 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.96 ล้านล้านบาท) ในปี 2543 เพียงปีเดียว จากวิกฤติฟองสบู่ดอทคอม
...