เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจีน ภายหลังจากต้นเดือน ธ.ค. ทางการจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดของไวรัส อนุญาตให้ประชาชนไม่ต้องรับการกักตัวที่ศูนย์ของรัฐ ไม่จำเป็นต้องแสดงผลตรวจเชื้อเวลาเข้าใช้บริการสถานที่ต่างๆยกเว้นโรงเรียน โรงพยาบาล รวมทั้งยกเลิกแอปพลิเคชันแจ้งเตือนการเข้าใกล้ผู้ติดเชื้อ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตามเมืองใหญ่ในจีนยังคงเงียบเหงา เนื่องด้วยประชาชนจำนวนมากกลัวการแพร่ระบาดระลอกใหม่ และต่างอยู่แต่ในที่พักอาศัยไม่เดินทางไปไหน ผลตรวจเชื้อของทางการจีนระบุว่า ในวันที่ 17 ธ.ค. มีผู้ติดเชื้อ 2,097 คน แต่ก็เป็นตัวเลขที่มาจากจำนวนผู้รับการเข้าตรวจหาเชื้อลดน้อยลง โดยในกรุงปักกิ่ง มีรายงานว่าพนักงานส่งสินค้าและพัสดุได้รับผลกระทบ บางบริษัทพนักงานกว่าครึ่งติดเชื้อ ขณะที่จำนวนการใช้บริการสถานฌาปนกิจศพ ก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ที่เมืองซีอาน มีรายงานว่าสถานีรถไฟใต้ดินมีผู้ใช้บริการเบาบาง ที่เมืองเฉิงตู ถนนหนทางต่างๆมีประชาชนเบาบาง ส่วนใหญ่ใช้วิธีสั่งอาหารทางออนไลน์ พร้อมรายงานว่าชุดตรวจหาเชื้อขาดแคลน ที่นครเซี่ยงไฮ้ ทางการเสนอแนะว่าโรงเรียนต่างๆควรจัดการเรียนการสอนทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.เป็นต้นไป ส่วนที่เมืองกวางโจว โรงเรียนต่างๆได้เริ่มการสอนแบบออนไลน์ และโรงเรียนอนุบาลยังไม่จำเป็นต้องมาเข้าเรียน
ด้านนายหวู่ จุนยู หัวหน้าฝ่ายโรคติดต่อประจำศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติจีน เปิดเผยว่าจากการประเมินของหน่วยงานเชื่อว่า อัตราการแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งนี้ จะมา 3 ระลอก ในช่วงกรอบเวลา 3 เดือน โดยระลอกแรกจะเริ่มขึ้นในเมืองต่างๆ ระหว่างช่วงกลางเดือน ธ.ค. ไปจนถึงกลาง เดือน ม.ค. ตามด้วยระลอกสอง เกิดขึ้นในช่วงตรุษจีนที่ประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับบ้าน ในช่วงปลายเดือน ม.ค. ถึงกลางเดือน ก.พ.
...
จากนั้นหลังเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.นี้ จึงเป็นคราวของระลอกสามที่ประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับมาทำงาน การระบาดคาดว่าจะ เกิดขึ้นระหว่างช่วงปลายเดือน ก.พ. ถึงกลางเดือน มี.ค. นายจุนยูกล่าวด้วยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการรุนแรงในจีนได้ลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยผู้คนมีภูมิคุ้มกันจากวัคซีน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือประชากรสูงวัย อย่างผู้มีอายุมากกว่า 80 ปี มีอัตราการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้วเพียง 66.4% ก่อนหน้านี้ สถาบันชี้วัดและประเมินสุขภาพของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน สหรัฐฯ ยังประเมินว่า การยกเลิกมาตรการป้องกันไวรัสอย่างกะทันหัน อาจทำให้มีชาวจีนเสียชีวิตเกิน 1 ล้านคนในปี 2566.