“คุณไม่จำเป็นต้องพ่ายแพ้ คุณสามารถมีจิตใจที่สงบ มีสุขภาพที่ดี มีพละกำลังที่ไม่หมดสิ้น และมีชีวิตที่เป็นสุขอย่างน่าพอใจ สิ่งเหล่านี้เกิดกับคุณได้” เป็นถ้อยคำที่แสนเรียบง่าย แต่ปลอบประโลมใจและสร้างพลังได้อย่างวิเศษ

ในโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และแรงบีบคั้นจากรอบทิศให้ต้องปรับตัวตลอดเวลาเพื่อความอยู่รอด คงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า “พลังใจที่เข้มแข็ง” เดือนสุดท้ายของปีแล้วขอชวนคุณผู้อ่านมาปลุกพลังแห่งการคิดบวกและสร้างแรงบันดาลใจอย่างไม่มีวันหมดสิ้น เพื่อเริ่มต้นปีใหม่เป็นคนใหม่ที่มีความสุขกว่าเดิม ด้วยพลังแห่งการคิดบวก!!

ความอัศจรรย์ของ “การคิดบวก” เพื่อสร้างพลังความคิดที่ยิ่งใหญ่ กลั่นกรองมาจากประสบการณ์ของ “นอร์ แมน วินเซนต์ พีล” บาทหลวงผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งแห่งยุค เขาเป็นผู้นำทางศาสนาชาวมะกัน ที่ริเริ่มผสมผสานการบำบัดทางจิตกับความศรัทธาเข้าด้วยกันในรูปแบบการเทศน์อันเปี่ยมเอกลักษณ์

แม้จะล่วงลับไปแล้วเมื่อ 29 ปีก่อน ขณะอายุได้ 95 ปี แต่หลักคิดของนักบุญผู้นี้ยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลกอย่างไม่มีวันหมดสิ้น ฝากไว้เป็นตำนานก็เห็นจะเป็นผลงานคลาสสิกขึ้นหิ้ง “The Power of Positive Thinking” ซึ่งได้รับความนิยมล้นหลาม จนกลายเป็นที่มาของฉายา “บิดาแห่งการคิดบวก”

การมีทัศนคติที่ดีคือจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น มุ่งเน้นไปที่การสร้างความสงบภายในจิตใจ ไม่ส่งเสริมการปลีกตัวออกจากวิถีชีวิตตามปกติไปอยู่ในหลุมหลบภัย แต่ต้องรู้จักนำความสงบมาเป็นศูนย์รวมพลัง เพื่อเปลี่ยนเป็นพละกำลังให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสร้างสรรค์และมีความสุข ไม่ใช่เพื่อเป็นเครื่องมือในการค้นหาชื่อเสียง, ความร่ำรวย หรืออำนาจ แต่เพื่อสร้างแรงศรัทธาที่จะช่วยเอาชนะความพ่ายแพ้ในจิตใจ และเพื่อให้บรรลุความพึงพอใจทั้งหลายในชีวิต โดยรางวัลจากการเอาชนะตนเองได้ ก็คือการมีชีวิตที่มีความสุขผ่องแผ้วจากข้างใน

...

ผู้คนมากมายยอมแพ้ต่อปัญหาในชีวิตประจำวัน พร่ำบ่นถึงความโชคร้ายและยากลำบากในชีวิต อย่าปล่อยให้ความคิดลบๆควบคุมจิตใจเรา “บิดาแห่งการคิดบวก” แนะวิธีโยนความคิดลบๆออกจากจิตใจ เพื่อขจัดอุปสรรคทั้งหลายที่เป็นตัวการทำลายความสุข

“จงเชื่อมั่นในตัวเองอย่างมีเหตุผล” และศรัทธาในความสามารถของตัวเอง การรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า หรือมีปมด้อย ถือเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ขัดขวางความสำเร็จในชีวิต เมื่อใดก็ตามที่ความคิดลบผ่านเข้ามาในใจ ให้พยายามคิดบวกอย่างสร้างสรรค์ ถ้าคิดลบเมื่อไหร่ก็ให้มองดูความคิดนั้นตามที่เป็นจริง อย่าขยายความสำคัญให้มันด้วยความหวาดกลัว อย่าตื่นตกใจเพราะคำยั่วยุของผู้อื่น อย่าพยายามลอกเลียนแบบใคร เพราะไม่มีใครเป็นคุณได้ดีเท่าตัวคุณเอง

“จะสร้างความสุขให้ตัวเองได้อย่างไร” ใครเป็นคนกำหนดว่าคุณควรจะมีความสุข หรือไม่มีความสุข ก็ตัวคุณเองนั่นแหละ!! จะสุขจะทุกข์ล้วนขึ้นอยู่กับใจ จงฝึกฝนใจให้รื่นเริง สร้างนิสัยที่มีสุข แล้วคุณจะเพลิดเพลินกับชีวิตได้ทุกวัน ชีวิตที่มีความสุขเกิดจากอุปนิสัยที่เป็นสุข ซึ่งเราสามารถสร้างนิสัยนั้นได้ และเรามีอำนาจที่จะสร้างความสุขให้ตัวเองได้ เริ่มจากฝึกคิดอย่างมีความสุข จดลิสต์รายการความสุขไว้ในใจ และคิดถึงพวกมันบ่อยๆในแต่ละวัน หากความทุกข์ผ่านเข้ามาในใจเมื่อไหร่ก็ให้หยุดคิดทันที ตั้งใจกำจัดมันออกไปและนึกถึงความสุขแทน ทุกเช้าก่อนจะลุกจากเตียงให้นึกถึงเรื่องราวดีๆที่ทำให้ยิ้มได้ หรือนึกถึงสิ่งดีๆที่เราอยากพบเจอในวันนั้น พลังของการคิดบวกจะทำให้มันกลายเป็นจริงในที่สุด

“เลิกโกรธและเลิกกังวล” ผู้คนมากมายทำให้ชีวิตยากเย็นโดยใช้พลังไปกับความโกรธและความกังวลใจ ลองคิดแบบนี้ดูบ้าง อย่าเดือดเนื้อร้อนใจเพราะคนชั่ว เราควรเลิกโกรธและเลิกกังวลกับมลพิษทางอารมณ์รอบตัว ทำใจให้สงบหากเราต้องการพลังเพื่อใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ใครที่รู้ตัวว่าใช้ชีวิตเร่งรีบ และกดดันตัวเองเกินไป ลองผ่อนจังหวะให้ช้าลง เพื่อให้จิตใจสงบไม่พลุ่งพล่าน ทางเดียวที่จะทำให้หายเครียด เลิกโกรธและเลิกหงุดหงิดมากไป คือฝึกใช้ชีวิตอย่างสงบเรียบง่าย แล้วคุณจะค้นพบความสุขที่แท้จริง.

มิสแซฟไฟร์