"อีลอน มัสก์" เทขายหุ้นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา จำนวน 22 ล้านหุ้น มูลค่า 1.24 แสนล้านบาท ถือเป็นการขายครั้งที่สองนับตั้งแต่เข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์

"อีลอน มัสก์" อดีตมหาเศรษฐีร่ำรวยสุดของโลก เทขายหุ้นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา จำนวน 22 ล้านหุ้น มูลค่า 3,580 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.24 แสนล้านบาท ถือเป็นการขายครั้งที่สองนับตั้งแต่เข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ ส่งผลให้ปีนี้มูลค่าหุ้น Tesla ลดลงกว่า 60% โดยเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่แย่ที่สุดในกลุ่มเทคโนโลยี และยานยนต์

ข้อมูลจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินสหรัฐฯ เปิดเผยว่า หุ้นเทสลาถูกขายเมื่อวันจันทร์ อังคาร และพุธในสัปดาห์นี้ ทำให้ในปีนี้ มัสก์ขายหุ้นเทสลาไปทั้งหมดราว 40,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนสาเหตุการขายหุ้นเทสลาครั้งล่าสุดยังไม่ถูกเปิดเผย

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อนมัสก์ประกาศขายหุ้นเทสลา 19.5 ล้านหุ้น มูลค่า 3,950 ล้านดอลลาร์ หลังจากบรรลุข้อตกลงเข้าซื้อทวิตเตอร์มูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์

จากข้อมูลของ เรฟินิทีฟ ผู้บริการข้อมูลตลาดการเงิน เผยว่า มัสก์ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเทสลาซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 13.4%

เมื่อวันพุธ (14 ธ.ค.) ที่ผ่านมา มูลค่าหุ้นเทสลาในดัชนีแนสแด็กในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดต่ำกว่า 500 ล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563 และกลายเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีผลตอบแทนแย่ที่สุดในกลุ่มหุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการเข้าซื้อทวิตเตอร์ ทำให้มัสก์หันเหความสนใจจากเทสลา 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่า ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าเทสลาอาจตกต่ำ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ต้นทุนกู้ยืมสูง และบริษัทรถยนต์อื่นๆ เริ่มเร่งผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเช่นกัน ทั้งยังได้รับผลกระทบจากการเรียกคืนรถยนต์จำนวนมากอีกด้วย

...

เมื่อปลายปีที่แล้ว มูลค่าของบริษัทเทสลาอยู่ที่มากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และเริ่มลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ รายงานล่าสุดของ ฟอร์บส์ และบลูมเบิร์ก จัดอันดับความร่ำรวยของมหาเศรษฐีทั่วโลก อีลอน มัสก์ หลุดจากตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งผู้ที่ขึ้นมาเป็นหมายเลขหนึ่งแทนก็คือ นายแบร์นาร์ด อาร์โนลต์ มหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศส ซีอีโอของกลุ่มธุรกิจสินค้าหรู "แอลวีเอ็มเอช" (LVMH).