จากกรณีการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษของรัฐบาลรัสเซีย-สหรัฐฯ ระหว่างบริตต์นีย์ ไกรเนอร์ นักบาสเกตบอลหญิงชาวอเมริกันวัย 32 ปี ลีกดับเบิลยูเอ็นบีเอ ที่ถูกจำคุกรัสเซียฐานครอบครองยาเสพติด กับวิคเตอร์ บุท พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซียวัย 55 ปี ฉายาพ่อค้าความตาย ที่ถูกจำคุกสหรัฐฯฐานลักลอบค้าอาวุธสงครามนั้น สำนักข่าวอาร์ทีสื่อรัฐบาลรัสเซียได้รายงานบทสัมภาษณ์พิเศษของบุท ที่เปิดใจถึงเหตุการณ์ต่างๆและชีวิตในคุกสหรัฐฯ
ทั้งนี้ บุทซึ่งติดคุกสหรัฐฯเป็นเวลา 12 ปี หลังถูกจับกุมในประเทศไทยในปี 2551 และถูกส่งตัวให้สหรัฐฯในปี 2553 ได้ปฏิเสธรายงานเรื่องความสัมพันธ์กับกองกำลังติดอาวุธตาลีบันในอัฟกานิสถานของสื่อตะวันตก ระบุว่าถูกกลุ่มตาลีบันตั้งค่าหัว และไม่มีทางที่ตนจะจัดหารถถัง 200 คัน ให้ตาลีบันตามที่สื่อเยอรมนี เดอ สปีเกล รายงานอ้างแหล่งข่าว โฆษณา
ชวนเชื่อของรัสเซียเองยังรู้ว่าขอบเขตอยู่ตรงไหน ต้องมีความจริงกันบ้าง
บุทกล่าวยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์แต่ที่ต้องยอมสารภาพแลกโทษจำคุก 25 ปี เพราะไม่สามารถทำอะไรได้ในจุดนั้น ตัวเองถูกขังเดี่ยวในเรือนจำมาเรียนรัฐอิลลินอยส์ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปี 2559 ถึงถูกย้ายไปขังรวมกับนักโทษคนอื่นๆ รูปแบบคุกสหรัฐฯได้รับแรงบันดาลใจจากคุกของนาซีเยอรมนี ที่มีเป้าประสงค์ในการทำลายสภาพจิตของผู้คุมขัง ผู้คุมจะริบอาหารหรือเปิดไฟห้องขังสว่างทั้งคืน อาหารเองก็ไม่มีความเป็นมนุษย์ ตอนถูกขังในคุกไทยอาหารยังดีกว่าตื่นมาตนจะหัวเราะ 5 นาที และท่องไว้เสมอว่าสติอย่าหลุดเพราะไม่เกิดประโยชน์อะไร ได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์เดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งก็ต้องโทร.คุยกับทนาย ไม่ได้ติดต่อครอบครัวเพื่อนฝูง
...
หลังถูกขังรวมกับนักโทษอื่นๆ ก็พบว่าส่วนใหญ่เป็นคนผิวสี ส่วนใหญ่เห็นใจรัสเซีย ส่วนคนที่ไม่รู้ก็จะถามคำถามมากมาย ยาเสพติดระบาดในคุกเป็นวงกว้าง และตอนเห็นข่าวไกรเนอร์ถูกจับ ก็มีเพื่อนในคุกมาบอกว่า นี่ไงตั๋วกลับบ้านของนาย บุทยังให้ความเห็นถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนว่า สนับสนุนปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน และถ้าช่วยอะไรได้ก็พร้อมจะอาสา
ขณะเดียวกันคณะกรรมาธิการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรรัสเซียหรือสภาดูมาเผยว่า อาจดึงบุทเข้ามาช่วยทำงานเรื่องการสนับสนุนชาวรัสเซียที่เผชิญปัญหาการใช้ชีวิตในต่างแดน เพราะมองว่าประสบการณ์ที่บุทประสบมานั้นมีค่า และบุทยังกล่าวกับประธานคณะกรรมาธิการด้วยว่ามีอะไรให้ช่วยเหลือในเรื่องดอนบาส.