ไม่บ่อยนักที่มหาเศรษฐีระดับโลกอย่าง “เจฟฟ์ เบซอส” ผู้ก่อตั้ง “Amazon.com” จะออกโรงเตือนว่า เศรษฐกิจโลกกำลังถดถอยหนัก ถึงเวลาที่ทุกคนควรรัดเข็มขัดให้แน่น และหมดเวลากินหรูอยู่แพงใช้จ่ายฟุ่มเฟือยกันแล้ว ใครคิดจะถอยรถคันใหม่ ซื้อบ้านหลังใหญ่ หรือซื้อทีวีตู้เย็นใหม่ก็ล้มเลิกไปได้เลย เพราะปีหน้าเผาจริงไม่ใช่เผาหลอกแน่นอน ความสยองกำลังจะบังเกิดขึ้นแล้ว!!
ระหว่างให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็น เจ้าพ่อแอมะซอนออกโรงเตือนว่า เศรษฐกิจโลกตอนนี้ไม่ค่อยจะสู้ดี ทุกภาคธุรกิจชะลอตัวลงหมดและหลายเซ็กเตอร์กำลังปลดพนักงาน ซึ่งส่งสัญญาณว่าถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องประหยัดกันแล้ว ใครคิดจะซื้อทีวีจอใหญ่ หรือถอยรถคันใหม่ก็ควรชะลอก่อนและตุนเงินสดไว้ในมือ เพื่อเตรียมตั้งรับกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกในขณะนี้บีบให้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีแข่งกันประกาศปลดพนักงานจนกลายเป็นกระแสช็อกโลก!! เพื่อพยายามลดต้นทุนค่าใช้จ่าย หลังประสบภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นำขบวนโดย “แอมะซอน” ประกาศปลดพนักงานไปแล้ว 10,000 คน, HP เตรียมปลดพนักงานทั่วโลก 6,000 ตำแหน่ง, Shopee อีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ ปลดพนักงาน 7,000 คน ในรอบ 6 เดือน ขณะที่ “อีลอน มัสก์” ประกาศปลดพนักงานทวิตเตอร์ทีเดียว 4,400 คน หลังเข้าเทกโอเวอร์กิจการ
รายที่เล่นใหญ่กระทบไปทั้งอุตสาหกรรมก็เห็นจะเป็น “Meta” บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก ที่ “มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก” ยอมรับเป็นครั้งแรกว่า บริษัทกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก และขอให้แมเนเจอร์ทุกคนจิ้มลูกน้องออกครึ่งๆ!! เพื่อพยายามลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆลงและเดินหน้าสู่การปรับโครงสร้างทีมใหม่ หลังประสบภาวะขาดทุนไปกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2021 อันเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ งานนี้ “Meta” ปลดพนักงานไปทีเดียว 11,000 คนทั่วโลก พร้อมไล่ปิดโครงการที่ไม่ทำเงิน โดยเจ้าพ่อเฟซบุ๊กประกาศนโยบายชัดว่า ต่อจากนี้ต้องทำงานให้สำเร็จมากขึ้น ด้วยการใช้ทรัพยากรที่น้อยลง
...
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความผันผวนอย่างหนักของเศรษฐกิจโลก ยังพอมีหลุมหลบภัยสำหรับนักลงทุนที่ควรโยกเงินไปเก็บไว้เพื่อลดความเสี่ยง ทั้งจากปัจจัยเรื่องสงครามรัสเซีย-ยูเครน ราคาพลังงานพุ่ง และเงินเฟ้อทะยานลิ่ว
เซ็กเตอร์แรกที่แนะนำให้ลงทุนคือ เพิ่มพอร์ตลงทุนใน “ภาคธุรกิจสาธารณูปโภค” ซึ่งต้านภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ดี ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มพลังงานไฟฟ้า น้ำประปา และก๊าซธรรมชาติ รวมถึงโครงการสาธารณูปโภคและโครงสร้างต่างๆที่ลงทุนโดยภาครัฐ
“เฮลธ์แคร์” ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ อุปกรณ์การแพทย์ และการบริการรักษาพยาบาลก็ทนทานต่อความผันผวนขึ้นลงของภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในยุคที่โลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อีกหนึ่งเซ็กเตอร์ที่ควรลงทุนในช่วงเศรษฐกิจขาลงคือ “อสังหาริมทรัพย์” มหาเศรษฐีทั่วโลกสะสมที่ดินไว้เกินครึ่งของความมั่งคั่ง เพราะรู้ดีว่านี่คือ “Save Haven” สินทรัพย์ปลอดภัยที่ใช้หลบภัยได้ดีที่สุดในช่วงเศรษฐกิจเกิดความผันผวนสูง เพื่อรอโอกาสลงทุนครั้งต่อไปตอนตลาดกลับมาคึกคักอีกครั้ง.
มิสแซฟไฟร์