การประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 20 ที่เพิ่งจบลงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีเนื้อหาสำคัญที่น่าติดตามมากมาย ในฐานะที่ จีนเป็นประเทศมหาอำนาจอันดับสองของโลก เป็นคู่ต่อสู้สำคัญของ สหรัฐฯ ในด้าน เศรษฐกิจการเงินระหว่างประเทศ การเมืองระหว่างประเทศ และ เทคโนโลยีระหว่างประเทศ การประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีขึ้น 5 ปีครั้ง การประชุมแต่ละครั้งมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจอย่างมีนัยสำคัญ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนวัย 69 ปี ที่ครองอำนาจมา 2 สมัยแล้ว กระชับอำนาจทั้งหมดมาไว้ในมือเพียงคนเดียว ทั้งตำแหน่ง ประธานาธิบดี เลขาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ และ ประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง มีอำนาจเหนือประชากรจีนกว่า 1,400 ล้านคน เป็นผู้นำประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก

การประชุมสุดยอดผู้นำ APEC 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในกลางเดือนหน้า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง จะเดินทางมาร่วมประชุมที่ประเทศไทยด้วยตัวเองหรือไม่ หรือจะเป็นแค่วิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ล้วนมีความหมายต่อสถานะของประเทศไทย

เมื่อวันอาทิตย์ คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดใหม่ชุดที่ 20 จำนวน 24 ตำแหน่ง ในจำนวนนี้มี 7 ตำแหน่ง ที่เป็นคณะกรรมการประจำ Standing Committee หรือ คณะผู้ปกครองประเทศ มี ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นหมายเลขหนึ่ง ตามมาด้วย นายหลี่ เค่อเฉียง เลขาธิการพรรคเซี่ยงไฮ้ หมายเลข 2 ซึ่งจะได้เป็น นายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีการประชุมนัดแรกเพื่อลงมติเลือก เลขาธิการกลางพรรคฯ และ ประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง ผลการลงมติลับ ประธานาธิบดีสี ได้รับเลือกให้เป็นทั้งสองตำแหน่ง ส่วนตำแหน่ง ประธานาธิบดี จะไปเลือกในสภาผู้แทนประชาชนเดือนมีนาคมปีหน้า

การประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 ยังมีการรับรองการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดย ให้ยกเลิกวรรค 3 ในมาตรา 79 ที่กำหนดให้ วาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี ดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองสมัยไม่ได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ทำให้ ประธานาธิบดีสี ดำรงตำแหน่งได้โดยไม่มีวาระ ปัจจุบัน สี จิ้นผิง มีอายุ 69 ปี เมื่อครบวาระ 3 มีอายุเพียง 74 ปี ถ้ายังแข็งแรงก็เป็นสมัย 4 สมัย 5 ต่อได้สบาย

...

นอกจากนี้ยังมีการ บัญญัติแนวคิดทางการเมือง หรือ ทฤษฎีทางการเมืองของสี จิ้นผิง (Xi Jinping Thought) ว่าด้วย “สังคมนิยมที่มีบุคลิกจีนในยุคใหม่” (Socialism with Chinese Characteristics for New Era) ไว้ในรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไขใหม่ด้วย

ประธานาธิบดีสี แถลงหลังได้รับเลือกเป็น เลขาธิการกลางพรรคฯสมัยที่ 3 ว่า เป็นการออกเดินทางครั้งใหม่ที่จะทำให้พบพานกับบททดสอบใหม่ ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสี ได้แถลงในที่ประชุมพรรคถึง “เป้าหมายการปฏิรูปในทศวรรษยุคใหม่” ว่า จะ สร้างความทันสมัยแบบจีน เป็นความทันสมัยแบบสังคมนิยมที่มีพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นผู้นำ ประชาชนมีความมั่งคั่งร่วมกันถ้วนหน้า มีความกลมกลืนระหว่างอารยธรรมทางวัตถุกับอารยธรรมทางจิตใจ มีความปรองดองระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ มีหนทางแห่งการพัฒนาที่สันติ จะสร้างจีนให้เป็นประเทศสังคมนิยมที่เข้มแข็งและทันสมัยในทุกด้าน สร้างความเจริญให้กับประเทศด้วยวิทยาศาสตร์และการศึกษา ฯลฯ

สีได้แบ่งการพัฒนาจีนทันสมัยออกเป็น 2 ขั้นตอน ช่วงแรก 2563-2578 จะพัฒนาเป็นประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยในขั้นพื้นฐาน ช่วงที่สอง 2578-2593 จีนจะกลายเป็นประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่ยิ่งใหญ่ มั่งคั่ง เข้มแข็ง เป็นประชาธิปไตย ก้าวหน้าทางวัฒนธรรมและสวยงาม ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร จีนจะเปิดประเทศให้กว้างขึ้น

เป็นเรื่องราวของ ผู้นำจีน ที่โลกต้องติดตามในฐานะ ผู้นำประเทศมหาอำนาจอันดับสองของโลก ผมก็เก็บมาเล่าสู่กันฟังครับ โลกใบนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป.

“ลม เปลี่ยนทิศ”